4 โคตรบอลแห่งพรีเมียร์ลีกที่มาจาก"กาฬทวีป"
หลังจาก โมฮัมเหม็ด ซาล่าห์ ย้ายมายัง ลิเวอร์พูล ฟอร์มของเขาก็ร้อนแรง ขึ้นนำเป็นดาวซัลโวของลีกอยู่ในขณะนี้ เราจะพาไปสุดยอดรุ่นพี่ร่วมทวีป ว่าใครมาสร้างชื่อไว้ที่ พรีเมียร์ลีกกันบ้าง !!
โคโล ตูเร่
อาร์เซน่อล 2002-2009/แมนฯ ซิตี้ 2009-2013/ลิเวอร์พูล 2013-2016
นักเตะยุคแรกๆที่บุกเบิกแข้งจากทวีปแอฟริกา ต้องยกให้ โคโล ตูเร่ อดีตตำนานของทีม "ไอ้ปืนใหญ่"อาร์เซน่อล เข้าย้ายเข้ามาสู่ทีมด้วยค่าตัวเพียงแค่ 1.5 แสนปอนด์เท่านั้น และกลายเป็นชุดแชมป์ประวัติศาสตร์ ที่ไร้พ่ายคู่แข่งทั้ง ฤดูกาล และมีส่วนช่วยแนวรับของทีมในการสร้างสถิติไม่แพ้ใครติดต่อกันยาวนานถึง 48 เกมด้วยกัน นอกจากนั้นก็ได้แชมป์ เอฟเอคัพ 2 สมัย สิริรวมลงเล่นไปทั้งสิ้น 326 เกม ยิงไป 14 ประตู ทีมที่ 2 ในลีกผู้ดีเขาย้ายไปร่วมทัพ แมนฯ ซิตี้ และก็เช่นเดียวกันเขาก็ยังอยู่ในชุดที่ ซิตี้ คว้าแชมป์ลีกมาครองเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ และในช่วงสุดท้ายกับพรีเมียร์ลีก เขาย้ายไปร่วมทีม ลิเวอร์พูล เป็นเวลา 3 ปี ก่อนจะย้ายไป เซลติก พาทีมกวาด 3 ถ้วยในประเทศ บวกกับไร้พ่ายทุกเกมในทุกรายการ และแขวนสตั๊ดหลังจบซีซั่นที่ผ่านมา
ยาย่า ตูเร่
แมนฯ ซิตี้ 2010-ปัจจุบัน
น้องชายของ โคโล ที่คลานตามกันมาทั้งชีวิตจริง และอาชีพนักฟุตบอล ให้หลังปีเดียวที่พี่ของเขาย้ายมาร่วมทีมมหาเศรษฐีแห่งเกาะอังกฤษ น้องชายที่สร้างชื่อกับ ยักษ์ใหญ่ ลา ลีกา อย่าง บาร์เซโลน่า ก็ตัดสินใจย้ายตามมายังที่แห่งนี้ด้วยค่าตัว 24 ล้านปอนด์ และเหมือนดั่งฝัน ฤดูกาลแรกที่เขาย้ายเข้ามาก็เป็นฟันเฟืองสำคัญช่วยให้ทีมดังจาก แมนเชสเตอร์ คว้าแชมป์ที่เฝ้ารอคอยมาถึง 35 ปี และหลังจากนั้น ก็อยู่ในชุดที่คว้าแชมป์สมัยที่ 2 ในซีซั่น 2013/2014 และยังมี แชมป์ลีกคัพ 2 สมัย กับ เอฟเอ คัพ อีก 1 สมัย เรียกได้ว่าบอลถ้วยภายในประเทศพี่แกกวาดมาหมดแล้ว ถึงในช่วงปีหลังๆจะถูกลดบทบาทลงมาก จากเป็นตัวหลัก กลับกลายเป็นนั่งสำรองบ่อยขึ้น แต่ในยุค เป็ป กวาดิโอล่า ยังมองว่า ยาย่า มีประโยชน์กับทีม ด้วยประสบการณ์ที่มากโข รวมถึงความเก๋าเกมของเขา ที่กำลังจะพาทีมคว้าโทรฟี่ในลีกเป็นใบที่ 3 ในซีซั่นนี้
ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา
เชลซี 2004-2012 / 20014-2015
อีก 1 ตำนานกองหน้าของฟุตบอลลีก อังกฤษ ผู้ชายที่เพียบพร้อมทั้ง พละกำลัง ความคม และการกระหายในชัยชนะ ในเดือน 2004 เชลซี เดิมพันด้วยเงินจำนวนถึง 24 ล้านปอนด์ กระชากตัวเข้ามาจาก โอลิมปิก มาร์กเซย แม้จะดูเป็นเม็ดเงินจำนวนมาก แต่สิ่งที่ได้ตอบแทนมันแทบประเมินราคาไม่ได้ เพราะตลอดระยะเวลากับการอยู่กับทีมถึง 8 ปีเต็ม(ในรอบแรก) ดร็อกบา ถูกยกให้เป็นสุดยอดกองหน้าขวัญใจแฟนบอลทุกคน เขาไม่เคยลงเล่นน้อยกว่า 30 เกมต่อฤดูกาล เขาไม่เคยยิงน้อยกว่า 10 ลูกต่อซีซั่น หากนับรวมทั้ง 2 ครั้งที่เขาอยู่กับทีม เขาลงช่วยสโมสรไปถึง 381 เกม ซัลโวไป 164 ประตู ชูถ้วยแชมป์ลีก และ เอฟเอ คัพ 4 ครั้ง ลีกคัพ 3 ครั้ง ยูฟ่า แชมป์เปี่ยนส์ ลีก 1 ครั้งและนับเป็นแชมป์แรกในถ้วยยุโรปของทีมอีกด้วย และแม้เวลาจะผ่านไปกี่ปี แต่ชื่อของ ดร็อกบา จะถูกพูดถึงในฐานะตำนานของ เชลซี ตลอดไป
ไมเคิล เอสเซียง
เชลซี 2005-2014
อีกหนึ่งตำนานของทัพสิงห์บลู อีกหนึ่งนักเตะสารพัดประโยชน์ และเป็นหัวใจหลักของเชลซีตลอดระยะเวลาร่วม 10 ปี การเล่นที่ดุดัน และการอ่านเกมที่เด็ดขาด เอสเซียง สามารถเล่นได้แทบทั้งหมดในแนวรับทั้ง มิดฟิลด์ แบ็ค เซ็นเตอร์ อยู่ที่ว่าเจ้านายจะจับเขาลงเล่นตรงไหน การได้ตัวเขามาด้วยค่าตัว 24.4 ล้านปอนด์ คนที่ตัดสินใจซื้ออย่าง มูรินโญ่ เปรียบดีลนี้เป็นดีลสุดคุ้มค่า นอกจากการเป็นผู้เล่นที่ดีแล้ว เขายังเป็นนักเตะที่มีความพยายามอยู่ตลอดเวลา เห็นได้จากการบาดจเ็บยาวกับทีมชาติ กานา ในปี 2010 ก่อนจะกลับมาโชว์ฟอร์มเปรี้ยง หลังจากพักมาอย่างยาวนาน แชมป์ลีก 2 ครั้ง, เอฟเอ คัพ 4 ครั้ง, ลีกคัพ และ แชมป์เปี้ยนส์ ลีก อีก 1 ครั้ง หาก ดร็อกบา เป็นตำนานของเชลซี ก็ไม่ผิดอะไรที่จะบอกว่าผู้ชายคนนี้ก็เป็นวีรบุรุษของแฟน เดอะ บลู เช่นเดียวกัน
เว็บที่เกี่ยวข้อง : http://www.linedoball.com/
#คะนึง ตึงเปรี๊ยะ
