ค็อปทอล์ค!!4 ประเด็นที่เด็กหงส์ควรรู้หลังเกมบุกตีหม้อ 3-0

4 ประเด็นที่เด็กหงส์ควรรู้หลังเกมบุกตีหม้อ 3-0

เกมนี้ไม่มีดราม่า เมื่อ "หงส์แดง"ลิเวอร์พูล ออกนอกบ้าน และบุกถล่ม "ช่างปั่นหม้อ"สโต๊ค ซิตี้ เละเทะ 3-0 เกิดอะไรขึ้นในเกมนี้บ้าง และมีประเด็นอะไรที่เด็กหงส์ควรรู้ เราจะพาไปดูกัน !!

โรเตชั่นกันสนุก

ปรับถึง 6 ตำแหน่ง

เกมของหงส์แดงที่พัก 2-3 วันแล้วต้องลงเตะ 1 แมตซ์ หากดันทุลังใช้นักเตะหน้าเดิมๆ เครื่องร้อนๆของทีมอาจจะพังได้ โดยเกมนี้เปลี่ยนแปลงถึง 6 คนกับเกมเสมอ เชลซี 1-1 ฟีร์มิโน่ และ มาเน่ กลับมาประจำการเป็นตัวจริงในแนวรุก เช่นเดียวกับ โซรันเก้ ที่ได้ลงเล่นเป็นตัวจริงในตำแหน่งหน้าเป้า เป็นนัดแรกของซีซั่น ด้าน อ็อกเลด-แชมเบอร์เลน ได้ลงเล่นอย่างต่อเนื่อง ในแผงมิดฟิลด์ ต้อนรับการกลับมาของ ชาน ในแนวรับก็เป็น มาติป ยืนคู่กับ ลอฟเรน ส่วนตัวหลักอย่าง คูตินโญ่ กับ ซาลาห์ ได้พักในเกมนี้ โดยผลงานของทีมนั้นค่อนข้างสวยหรู 8 เกมหลัง เกมรุกผลิตสกอร์ถึง 25 ประตู ทำให้ เยอร์เก้น คล็อปป์ ยังมั่นใจในทีม แม้จะต้องโรเตชั่นนักเตะทุกนัด แต่ดูจากรายชื่อแล้ว ก็ดูดีทีเดียว

หงส์เร่งเครื่องตั้งแต่ต้นเกม

ตีหม้อแตกเร็ว ทำให้เล่นไม่กดดัน

ก็เป็นไปตามคาดการณ์ เมื่อครึ่งเวลาแรก หงส์แดง ที่ฟอร์มดุกว่า เดินเครื่องบุกหวังจะได้ประตูนำเร็ว เพราะรู้อยู่แล้วว่าแนวรับของเจ้าบ้านมีปัญหา 6 เกมหลังเสียไปถึง 15 ประตู และแม้เด็กหนุ่มอย่าง โซรันเก้ จะพึ่งได้ลงเป็นตัวจริงเกมแรก แต่ก็ทำแอสซิส สุดสวยให้กับรุ่นพี่ทีมชาติเซเนกัล ที่ตักบอลข้ามตัว ลี แกรนท์ เป็นประตูออกนำให้ทีม แต่สิ่งที่น่าชื่นชมในสกอร์นี้คือ ฟีร์มิโน่ ที่มีโอกาสยิง แต่เลือกจะประคองลูกบอลให้ค่อยๆไหลเข้าไป ทำให้ชื่อผู้ทำประตูเป็นของ มาเน่ และเป็นการลั่นประตูลูกแรก หลังจากปืนฝืดในลีกมา 6 เกมติด ส่วนเจ้าถิ่นจะมีสวนมาบ้างก็เห็นจะต้องหวังพึ่งแค่ ชากิรี่ ที่พยายามทำเกมบุกแบกทีมอยู่คนเดียว แต่จนแล้วจนรอด กรรมการเป่านกหวีดยาวจบครึ่งแรก หม้อ ยังยิงไม่เข้ากรอบแม้แต่ลูกเดียว

เสียวอีกแล้วน่ะหงส์

ต้องรอถึงนาทีที่ 77 ถึงหายใจสะดวกขึ้น

กลับมาครึ่งหลัง ต้องบอกว่าก่อนจบครึ่งแรกรูปเกมของเจ้าถิ่นดูดีขึ้น และจากที่สกอร์ตามแค่ 1 ช่วงตัว เพราะฉนั้นอะไรก็เกิดขึ้นได้(ยิ่งกับทีมอย่าง ลิเวอร์พูล) ถึงแม้จะครองบอลได้มากกว่า โอกาสผ่านบอลเยอะกว่า โอกาสลุ้นยิงประตูดูดีกว่า แต่การโต้กลับของ สโต๊ค ก็เกือบเป็นเหตุการณ์เดจาวู ทำลูกทีมของ คล็อปป์ หน้าตึงได้เหมือนกัน แต่ลูกยิงจ่อๆของ โจ อัลเลน อดีตมิดฟิลด์หงส์แดง เบิดข้ามคานแบบไม่น่าเชื่อถึง 2 ครั้ง ในเมื่อทำไม่ได้ก็โดนลงโทษ จากตัวสำรองอย่าง ซาลาห์ ที่ถูกส่งลงมาเป็นตัวทีเด็ด เรี่ยวแรงยังดี กด 2 ประตูปิดกล่องให้ทีม และนับเป็นการปลดล็อกให้แฟนหงส์หายใจสะดวกขึ้น ส่งผลให้เขาขึ้นนำเป็นดาวซัลโวเดี่ยวที่ 12 ประตูในลีก รวมถึงดาวซัลโวของลีกยุโรป รวมทุกถ้วยยิงไป 17 ประตู นำ เมสซี่ อันดับ 2 อยู่ 1 สกอร์ ดูบอลสดมือถือฟรี

คล็อปป์ชม น้องเก้เท่ห์ไปเลย - มาเน่ ยังต้องปรับอีกนิด

การเปิดตัวของ โซรันเก้ ทำได้ดีทีเดียว

นักเตะยอดเยี่ยมของโทนาเม้นฟุตบอลโลกชุดเล็กอย่าง โซรันเก้ ก็แสดงให้เห็นแล้วว่าเขาดีพอกับการเล่นชุดใหญ่ให้ทีมได้ ในนัดเมื่อคืนมี 1 แอสซิส บวกกับโอกาสการยิง 2 ครั้ง นับว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดีกับสโมสรใหม่ ลิเวอร์พูล "ผมดีใจที่เห็นเขาลงสนาม เขาเป็นผู้เล่นที่ดีน่ะ แต่น่าเสียดายที่ไม่สามารถยิงประตูแรกได้ สิ่งสำคัญคือ โดมินิค ยังสามารถพัฒนาไปได้อีกเยอะ เขาอายุยังน้อย ยังเป็นดาวรุ่ง แต่มีศักยภาพพอที่จะช่วยทีมได้ดีเลยทีเดียว" บอสก็ได้พูดถึง มาเน่ ที่น่าจะยิงได้มากกว่า 1ประตูในเกมนี้ "น่าเสียดายกับจังหวะดวลเดี่ยวของเขาจริงๆ แต่ก็ต้องให้เวลาเขาหน่อยนะ เขายังไม่พร้อมเต็มที่ แต่คุณก็รู้ว่าเขามีความสำคัญกับทีมแค่ไหน คงไม่ต้องบอกแล้วมั้ง ว่าหากเขาฟิต และคลิ๊กกับทีม แล้วความโหดมันจะออกมาโดยที่ทำให้คุณต้องทึ่งอยู่แล้ว" คล็อปป์ กล่าวปิดท้าย

เว็บที่เกี่ยวข้อง : http://www.linedoball.com/

#คะนึงตึงเปรี๊ย

ปีศาจทอร์ค!!4 เรื่องที่เด็กผีควรรู้หลังเกมถล่ม วัตฟอร์ด 4-2

4 เรื่องที่เด็กผีควรรู้หลังเกมถล่ม วัตฟอร์ด 4-2

เกมพรีเมียร์ลีกนัดกลางสัปดาห์ระหว่าง "แตนอาละวาด"วัตฟอร์ด เปิดบ้านรับการมาเยือนของรองจ่าฝูง "แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด"และจบด้วยชัยชนะของทีมเยือน มีประเด็นอะไรบ้างที่เด็กผีควรรู้ในเกมนนี้ ไปดูกัน !!

ไม่ประมาท

จัดทัพเน้นรัดกุม

แม้จะเป็นเกมกลางสัปดาห์ และเจอทีมที่ศักยภาพต่ำกว่า แต่โชเซ่ มูรินโญ่ ก็ไม่ได้ใช้แผนแบบประมาทคู่แข่ง เน้นรัดกุมในตำแหน่งแนวรับที่วางถึง 3 เซ็นเตอร์แบ็คทั้ง วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ, คริส สมอลลิ่ง และ มาร์กอส โรโฮ ในแผน 3-4-3 โดย 2 นักเตะที่ได้รับโอกาสในเกมนี้ก็เป็น มาร์กอส โรโฮ กับ เจสซี่ ลินการ์ด ส่วน ฆวน มาต้า กับ มาร์คัส แรชฟอร์ด ก็ต้องหลุดเป็นสำรองไปตามระเบียบ กองหน้าฉายาพระเจ้า สลาตัน อิบราฮิโมวิช ก็ยังต้องนั่งข้างสนามเป็นตัวสำรองต่อไป สวนทางกับ โลเมลู ลูกากู ที่ลงเล่นต่อเนื่องไปอีกเกมในตำแหน่งหน้าเป้า เช่นเดียวกับ เนมันย่า มาติช กองกลางชาวเซิร์บ ที่ยังเป็นแกนหลักในแผงกองกลาง

เจ้าบ้านมาดีอ่ะ

ไม่ได้มาอุดนะครับ

ตามสไตล์ของแตนอาละวาดอยู่แล้ว ที่ในปีนี้เกมของพวกเขาไม่กลัวทีมหน้าไหนทั้งน้ัน อันดับก็อยู่เหนือกลางตารางจบที่ 8 ก่อนจะเล่นในเกมเมื่อคืน นัดที่ผ่านมาก็บุกไปสอย นิวคาสเซิ่ล ถึงถิ่น 3-0 มาในเกมนี้ต้อนรับผีแดงด้วยอาวุธหนักทั้ง อังเดร เกรย์, อับดูลาย ดูกูเร่ และตัวทีเด็ด ริชาร์ลิสัน ทำให้รูปเกมที่ออกมาจากถิ่นครองบอลได้เหนือกว่า และตัวเลขการผ่านบอลในเกมนี้ก็ยังเป็นต่อทีมปีศาจแดง(495 / 348)แสดงให้เห็นว่า วัตฟอร์ด ไม่ได้เป็นรองในเรื่องของรูปเกม แต่จุดเปลี่ยนของการเข้าทำ และจบสกอร์ไม่ได้คือการโดนลงโทษ และดูเหมือนว่าในเกมนี้ ลูกทีมของ มูรินโญ่ จะเหี้ยมเกรียมสุดๆ ไม่ปล่อยโอกาสทองให้หลุดลอยไปไหน พูดง่ายๆ "คมกว่าเยอะ"

นำเร็วเล่นสบาย แต่...!!

เกือบมาตกม้าตายตอนจบ

เหมือนเกมนี้มันอยู่ในกุมมือของพลพรรคผีแดง แบบไม่ต้องเหนื่อยมากมาย หลังจากที่ทำประตูขึ้นนำจากอาจาร์ยังในนาทีที่ 19 และมาบวกสกอร์ที่ 2 จากลูกฟรีคิกโคตะระงดงามจาก อาจารย์คนเดิม แถมน้องมาร์กที่เกมนี้ท็อปคลาส ปิดกล่องก่อนไปพักเป็นประตูที่ 3 ให้ทีม แต่ช่วง 15 นาทีสุดท้ายของเกม ผีแดงทำเสียวเสีย 2 ประตู ทำให้โมเม้นต่ำเหวี่ยงไปทางฝั่งเจ้าบ้านเล็กๆ ถึงกระนั้นเกมนี้ต้องชมสมาธิของเกมรับ และความเฉียบขาดของเกมบุก จากจังหวะสวนกลับของ เจสซี่ ลินการ์ด เจ้าของค่าเหนื่อย 1 แสนปอนด์/วีค ที่กระชากแบบข้ามาคนเดียว และจบสกอร์ให้ทีมปิดจ็อบในช่วงนาทีที่ 86 และเป็นการตอกย้ำให้เจ้าถิ่นหยุดฮึด ช่วยให้ทีมคว้า 3 แต้มแบบใจหายใจคว่ำเล็กน้อยถึงปานกลาง ดูบอลสด

จ่าตะลึงลูกยิงจารย์/มาติชขอเปลี่ยนเอง

ฟรีคิกสุดสวยของ ยัง แย่งซีนทุกอย่าง

จากเกมที่เอาชนะทีมเหนี่ยวๆอย่าง วัตฟอร์ด ไปได้ 4-2 ก็นับว่าแฟนผีได้แฮปปี้มีความสุขกันสุดๆ แต่นอกเหนือจากนั้นคือลูกยิงสวยๆของเกมนี้ 1 ในนั้นมีลูกฟรีคิก ที่งามหยดพอจะส่งเข้าประกวดได้เลยทีเดียว "เอาตรงๆเลยนะผมก็นั่งดูอยู่ และไม่ได้โฟกัสไปที่ แอชลี่ย์ เพราะยังไงจังหวะนั้น ป็อกบา ต้องเป็นคนสังหารเอง แต่ผมก็ต้องตะลึงที่ พอล ยอมยกให้รุ่นพี่ของเขาเป็นคนสังหาร และก็ตะลึงอีกดอกเพราะบอลมันทั้งโค้ง แรง และคมกริบ แต่ถ้าพูดตามตรงมันก็ไม่ได้แปลกใจอะไรนักหรอก เพราะตอนซ้อมเขาก็ทำมันได้บ่อยๆน่ะ" ส่วนอาการบาดเจ็บของ มาติช มูรินโญ่ กล่าวว่า "มันเป็นความประสงค์ของเจ้าตัว(มาติช) เขาขอให้เปลี่ยนตัว เพราะมีอาการตึงเล็กน้อย หากไม่สุดจริงๆเขาไม่ทำแบบนั้นหรอก เราต้องมาดูกันอีกทีว่าจะเป็นข่าวดีหรือร้าย" 

เว็บที่เกี่ยวข้อง : http://www.linedoball.com/

#คะ

โม้หลังเกมส์!!4 ประเด็นหลังแมตซ์ หงส์ เจ๊า สิงห์ 1-1

4 ประเด็นหลังแมตซ์ หงส์ เจ๊า สิงห์ 1-1

บิ๊กแมตซ์เกมพรีเมียร์ลีก ระหว่าง "หงส์แดง" ที่เปิดรังแอนฟิลด์ปะทะกับ "สิงห์บลู"จบลงด้วยการแบ่งแต้มกันไป มีประเด็นอะไรบ้างที่แฟนบอลทั้ง 2 ทีมต้องรู้ในเกมนี้ ไปดูกันเลย !!

เดอะแบกโชว์ ทั้ง 2 ทีม

ซาลาห์ ฝั่งสีแดง อาซาร์ ฝั่งน้ำเงิน

นอกจากจะเป็นเกมบิ๊กแมตซ์ที่เร้าใจ และดุดันพอกันเนื่องจากเจ้าบ้านก็ชนะเกมลีกมา 3 แมตซ์รวด ส่วนฝั่งทีมเยือนก็ไม่น้อยหน้า อัดคู่แข่งมาแล้ว 4 เกมรวด แต่การเจอกันในเกมนี้มีการจ้องมองไปยัง 2 ผู้เล่นคนสำคัญของทีมเป็นพิเศษ นั้นคือตัวทำเกมรุกอย่าง ซาลาห์ ปีกมัมมี่ กับ อาซาร์ ปีกเบลเจี้ยน และทั้งคู่ก็ไม่ทำให้ทุกคนผิดหวัง โดยรายแรกเมื่อได้บอลสร้างปัญหาให้แนวรับของ เชลซี อยู่ตลอดทั้งเกม การครองบอล บังบอล และหาจังหวะสร้างสรรค์เกมรุกค่อนข้างเป็นธรรมชาติ แถมความเร็วของเขานับวันยิ่งเหมือนมีไนตั๊ดติดที่รองเท้า ส่วนรายหลังไม่ต้องพูดให้เมื่อยปาก หลังจากผ่าตัดข้อเท้า เขาก็ยังเทพเหมือนเดิม สเต็ปการโยกหลอกเป็นอะไรที่งดงาม การพาบอลไปข้างหน้าเนียนตาสุดๆ การจะหยุดเขาผู้เล่น ลิเวอร์พุล ต้องมีอย่างน้อยๆ 2 คน

ไม่มีรถบัส มีแต่รถซิ่ง

คุณที ผมที ไม่โกง

ช่วงหลังๆฟุตบอลมักจะเน้นผลการแข่งขัน จนหลงลืมคำว่าเอ็นเตอร์เทน แต่สำหรับเกมเมื่อคืนมันไม่ใช่ ลิเวอร์พูล อาจจะดร็อปตัวจี้ดถึง 2 รายทั้ง มาเน่ และ ฟีร์มิโน่ เนื่องจากการทำศึกหนักมาหลายสัปดาห์ แต่ถึงกระนั้นก็ส่ง กองหน้าจอมเซิ้ง สเตอร์ริดจ์ และรถถังทางเรียบอย่าง อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน ลงมาเล่น และถือว่าทดแทนได้ดี เพราะตามสไตล์การเล่นในแอนฟิลด์คือเปิดเกมเข้าสู้ ส่วนทางทีมเยือนเมื่อมองจากแผนการเล่นหลายคนคิดว่า คอนเต้ ต้องการแค่แต้มเดียวหรือ เพราะอัดกลางมา 5 คน แต่มันไม่ใช่แบบนั้นทั้งหมด วิธีการเล่นอาจรัดกุม แต่เมื่อมีโอกาส ก็บุกแหลกเหมือนกัน การดักบอลจังหวะ 2 ในเกมนี้ทำได้ดีหลายครั้ง และมีจังหวะสวนกลับเร็วๆ ทำเอาแฟนหงส์นั่งกันไม่ติด ทำให้เกมนี้เป็นเกมที่มันส์อีกแมตซ์ แม้บอลจะจบตีสองกว่าๆ แต่บอกตรงๆว่าไม่มีคำว่าง่วง

เเนวรับโดนซ่อมเยอะ แต่ไม่ตาย

เกมรับทำได้ดีทั้ง 2 ทีม

ไม่ใช่แค่แนวรุกที่ต้องยกย่อง แต่เกมนี้แนวรับของทั้ง 2 ทีมก็ทำได้ดีเช่นกัน ยิ่งทีมเยือน เชลซี ที่ต้องเป็นฝ่ายตั้งรับมากกว่า ก็เล่นกันอย่างมีวินัย วิ่งไล่บีบ บี้ กดดันเจ้าบ้านตลอด แทบจะไม่เสียสมาธิ มีแค่จังหวะการทำหลุดมือของ กูตัวร์ และ จังหวะเสียประตูให้ โม ซาล่าห์ เข้าไปดวลเดี่ยวกับนายทวาร นอกนั้นก็ทำได้ตามแผนที่ คอนเต้ วางไว้ทั้งหมด ส่วนลูกทีมของ คล็อปป์ ก่อนเกมถูกมองว่าจุดอ่อนจะเป็นหลังบ้านเช่นเคย แต่วันนี้ท็อปฟอร์มแทบทุกคน โมราต้า ที่ว่าแน่ๆไปไม่เป็นกันเลยทีเดียว คลาวาน เข้า มาติป ซ้อน ลูกกลางอากาศที่เป็นของแสลงก็ผ่านไปได้ด้วยดี อาจจะมีการสกัดบางจังหวะที่ยังไม่ขาดไปซะทีเดียว ส่วนประตูตีเสมอ หากจะโทษ มินนี่ คนเดียวก็คงไม่ถูกนัก เพราะคงไม่มีใครคาดคิดว่า วิลเลี่ยน จะตักบอลมาด้วยทิศทางและน้ำหนักที่เป๊ะเวอร์สซะขนาดนั้น ดูบอลสด

เสมอกัน คือผลการแข่งขันที่ยุติธรรม

ด้วยรูปเกมแล้ว "เจ๊า" นั้น เจ๋งแล้ว

หากจะให้เครดิตฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง คงเลือกไม่ได้ เพราะเกมนี้เป็นเกมคุณภาพ เป็นเกมพรีเมียร์ลีก ที่เล่นกันอย่างสนุกโดยแท้จริง อย่างแรกเลย คล็อปป์ ยังรักษาสไตล์ของตัวเองไว้ คือยิงเท่าไหร เสียเท่ากัน ส่วน คอนเต้ ก็เป็นถึงดรีกีแชมป์เก่า จะให้มาเล่นเอา 1 แต้ม คงไม่สวยแน่ ทำให้ต้องมีลูกฮึดให้เห็นอยู่ตลอด อีกสิ่งหนึ่งที่ไม่พูดไม่ได้ คือเกมนี้เล่นกันหนัก แต่เป็นการหนักในเกม การปะทะถึง 40 ครั้งในเกมนนี้ใสสะอาด ทำให้ไม่มีใบเหลืองของทั้งฝั่งทีมเยือน หรือ เจ้าบ้าน(ส่วนเกมอื่นในนัดเมื่อคืนมีใบเหลืองทุกคู่) ทำให้เห็นถึงการตั้งใจมาอัดกันในเรื่องของแทคติก และศักยภาพของนักเตะล้วนๆ การผ่านบอลของทั้ง 2 ทีมรวมกันเกิน 1,000 ครั้ง โอกาสการยิงรวมๆเกือบ 30 ครั้ง ถือว่าเป็นอีกเกมที่สวยงามอีก 1 นัดในซีซั่นนี้

เว็บที่เกี่ยวข้อง : http://www.linedoball.com/

#คะนึงตึงเปรี๊ย

ว่าที่นายใหญ่อัซซูรี่!!4 ตัวเต็งที่จะเข้ามาคุมทัพ "อิตาลี"

4 ตัวเต็งที่จะเข้ามาคุมทัพ "อิตาลี"

หลังจากที่ทีมชาติ อิตาลี ตกรอบฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกเพลออฟแบบช็อคแฟนบอลทั่วโลก ทีมได้ทำการปลด จามปิเอโร่ เวนตูร่า วันนี้เราจะพาไปดู สุดยอดกุนซือตัวเต็งที่จะเข้ามารับไม้ต่อแทนในอนาคต !!

โรแบร์โต้ มันชินี่

เซนิต เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก

กุนซือมากประสบการณ์รายนี้ พิสูจน์ตัวเองกับลีกใหญ่ๆมามากมาย ทั้งในลีกบ้านเกิดที่คุม อินเตอร์ มิลาน ได้แชมป์กัลโช่ เซเรีย อา 4 สมัย พ่วงด้วย โกปา อิาตาเลีย ที่พาทั้ง ฟิออเรนติน่า, ลาซิโอ้, และ อินเตอร์ มิลาน(2 ครั้ง) คว้าแชมป์มาแล้ว และไม่ได้มีแค่นั้น เขายังหันไปรับงานที่เกาะอังกฤษ และเป็นกุนซือคนแรกที่พา แมนเชสเตอร์ ซิตี้ คว้าแชมป์ลีกประวัติศาสตร์เป็นหนแรกของสโมสร บวกกับ แชมป์ เอฟเอ คัพ อีก 1 สมัย ถึงแม้การได้แชมป์ในลีกผู้ดีจะถูกวิจารณ์ว่าเกิดขึ้นได้เพราะทีมเรือใบสีฟ้าเป็นทีมมหาเศรษฐี แต่กระนั้นในปัจจุบันเขาหันไปรับงานที่รัสเซีย กับการคุมทีม เซนิตฯ ที่กำลังไล่ล่าแชมป์อยู่ในตอนนี้ แถมทีมก็ไม่ได้มีเงินมากมายอะไร นับว่าฝีมือของกุนซือรายนี้ก็มีดีพอตัวเลยทีเดียว

คาร์โล อันเชล็อตติ

ว่างงาน

แม้จะพึ่งโดน บาเยิร์น มิวนิค ตะเพิดออกจากการคุมทีม "เสือใต้" แต่อย่าลืมว่าชื่อชั้นของกุนซือรายนี้นับว่าไม่ธรรมดา เพราะเป็นโค้ชที่ผ่านร้อน ผ่านหนาวมาแทบทุกรูปแบบ โดยประสบการในการคุมทีมผ่านมาแล้วทั้ง 5 ลีกใหญ่ ไม่ว่าจะเป็น กัลโช่ เซเรีย อา 4 สโมสร เร็กจีน่า, ปาร์ม่า , ยูเวนตุส และ เอซี มิลาน พรีเมียร์ลีก กับ เชลซี, ลีกเอิง กับ เปแอสเช, ลา ลีกา กับ เรอัล มาดริด และล่าสุด บุนเดสลีกา กับ บาเยิร์น มิวนิค สังเกตุดีๆแต่ล่ะลีก แต่ละทีมที่ผู้ชายคนนี้เข้าไปคุมล้วนเป็นทีมใหญ่แทบทั้งสิ้น อีกทั้งยังสามารถพาทีมคว้าแชมป์ลีกมาแล้วในทุกประเทศ นับว่าดีกรีขนาดนี้กับการเข้าไปคุมทีมชาติอิตาลี ไม่มีปัญหาอย่างแน่นอน

เคลาดิโอ รานิเอรี่

น็องต์

บุคคลที่ถูกขนานนามว่า "อ่อนภาษา"แต่หากเรื่องการคุมทีมแล้วล่ะก็ ไม่อ่อนตามฉายาที่กล่าวมาอย่างแน่นอน เพราะเขาคุมทีมมามากถึง 14 ทีม ซึ่ง 1 ในนั้นก็เคยคุมทีมชาติกรีซมาแล้วในระยะเวลาอันสั้นๆ เพราะทำผลงานได้ไม่เข้าตากรรมการ แต่ทว่า 5 ลีกใหญ่ในยุโรปผ่านมือของผู้ชายคนนี้มาหมดแล้ว และล่าสุดกับผลงานชิ้นโบแดง คือการพาทีมที่หนีตกชั้นอย่าง เลสเตอร์ ซิตี้ ผงาดคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก ดั่งนิยายในละคร ถึงอย่างไรเขาก็อยู่ไม่รอดต้องหางานใหม่นับจากพาทีมคว้าแชมป์ เนื่องจากผลงานที่แย่ในปีถัดมา ในปัจจุบันเขาทำทีม น็องต์ จากลีกเอิง ซึ่งก็น่าประทับใจเพราะตอนนี้เกาะกลุ่มหัวตาราง ด้วยอายุอานามที่มากขึ้น เชื่อเหลือเกินว่าความเก๋าเกมจะเป็นประโยชน์ หากได้รับโอกาสในการคุมทัพอัซซูรี่ ดูบอลสดมือถือฟรี

อันโตนิโอ คอนเต้

เชลซี

แฟนบอลอิตาลี่ คงคุ้นหน้าคุ้นตากันเป็นอย่างดี เพราะกุนซือหนุ่มไฟแรงคนนี้เป็นอดีตนายใหญ่ของทีมชาติอิตาลี ที่เคยพาทีมทะลุไปในรอบ สี่ทีมสุดท้าย ศึกยูโร 2014 มาแล้ว และกับสโมสรก็เป็นคนที่ปลุกยูเวนตุส ให้กลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง ด้วยการกวาดแชมป์ลีก 3 สมัย พร้อมยกระดับทีมให้เหนือกว่าสโมสรอื่นๆ ถึงอย่างไรความกระหายของ คอนเต้ ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ เขาเข้าไปรับงานยากกับ เชลซี ในเวทีพรีเมียร์ลีก และแค่เพียงซีซั่นแรก ก็ไม่ต้องให้แฟนสิงห์บลูรอกันนานนัก พาทีมเถลิงคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกมาครองอย่างยิ่งใหญ่ แต่ถึงอย่าไรก็ยังมีข่าวหลุดออกมาว่า เจ้าตัวเริ่มไม่มีความสุขในกรุงลอนดอน จากการโดนกดดันหลายๆทาง และอาจจะคิดตัดสินใจ กลับไปช่วยทีมชาติบ้านเกิดของตัวเอง ที่กำลังตกอยู่ในสภาวะขาดแคลนผู้นำในตอนนี้

เว็บที่เกี่ยวข้อง : http://www.linedoball.com/

#คะนึงตึงเปรี๊ย

หมดเวลาCR7!?เพราะเหตุใด "โรนัลโด้" ถึงโชว์ไม่ออก

เพราะเหตุใด "โรนัลโด้" ถึงโชว์ไม่ออก

"ชีวิตของนักฟุตบอลมีขึ้น และมีลง"ประโยคดั่งกล่าวอาจจะฟังแล้วพอจะเข้าใจ เมื่อหันกลับมามอง "นักเตะเบอร์ 1 ของโลก"อย่าง โรนัลโด้ เกิดอะไรขึ้นกับฟอร์มของเขา วันนี้เราจะพาไปดู!!

ขาดแนวร่วมที่รู้ใจ

เมื่อทีมขายนักเตะตัวหลักไป...

ในซีซั่นนี้ เรอัล มาดริด ได้ทำการขายนักเตะออกไปจากทีมหลายคน ในจำนวนนั้นมีนักเตะที่ โรนัลโด้ คิดว่าทีมน่าจะยังคงเก็บเอาไว้เพื่อยกศักยภาพของทีม ที่ทำได้ดีมาใน 2 ซีซั่นหลัง โดยในเกมที่ เวล์มบลีย์ ระกว่าง สเปอร์ส - เรอัล มาดริด จบลงด้วยความพ่ายแพ้แบบหมดรูปของทีมเยือน 3-1 หลังจบเกม โรนัลโด้ ที่เกมนั้นยอมรับว่าผิดหวังสุดๆกับผลการแข่งขัน ออกมาพูดถึงประเด็นการขายนักเตะของสโมสร "ที่ฟอร์มของเราล่องลอย หาจุดเก่งแบบเดิมไม่เจอ เป็นเพราะว่าทีมปล่อย ฮาเมส, โมราต้า และ เปเป้ มันก็พอจะมีนักเตะที่มาแทนได้น่ะ แต่ก็นั้นแหละในโลกของฟุตบอล ไม่มีใครแทนใครได้หรอก" จากการให้การตรงนี้ กองหน้าชาวฝอยทองคงจะต้องการระบายความในใจ และเป็นเหมือนการตอกหน้าสโมสรที่คิดผิดในการซื้อ-ขายในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา

ปืนฝืดสุดๆ

หลังจากพ้นโทษแบน ความมั่นใจก็ยังไม่กลับมา

หลังจากโดนโทษแบนก่อนที่จะเปิดซีซั่น ด้วยการไปพลักกรรมการ ทำให้โดนคาดโทษถึง 4 เกมในลีก และเมื่อกลับมาจากการรับใช้กรรม โรนัลโด้คนเดิมก็แทบจะหายไปเลย การออกสตาร์ทของเขาอาจจะช้ากว่าดาวยิงคนอื่นๆ แต่เมื่อกลับมาสู่ทีมเขาก็การันตีการเป็น 11 ผู้เล่นตัวจริงเช่นเดิม แต่ถึงกระนั้น 8 เกมในลีกที่เขาลงเล่นในซีซั่นนี้ กลับยิงไปได้แค่ประตูเดียว(นับเป็นสถิติที่แย่ที่สุดนับตั้งแต่ย้ายมาในปี 2009) หากจะบอกว่าไม่มีโอกาสมากพอก็คงไม่ถูกนัก เพราะรวมใน 8 เกมเขามีโอกาสกดไปถึง 55 ครั้ง หากจะคิดเป็นเปอร์เซ็นก็อยู่ที่ 1.8% เท่านั้นเอง

อายุที่มากขึ้น

ส่งผลต่อวิธีการเล่นของตัวเอง

ถึงแม้ โรนัลโด้ จะเป็นนักกีฬาที่ดูแลร่างกายได้ดีระดับต้นๆของโลก ทั้งเรื่องอาหารการกินที่เรียกว่าเป๊ะ การออกกำลังกาย ดูได้จากหุ่นที่ยังฟิตเปรี๊ยะ มองด้วยตาเปล่าแทบไม่เห็นไขมัน และรวมถึงการปาร์ตี้สังสรรค์ ที่จะไม่มีเครื่องดื่มแอลกอฮอร์ แถมเป็นคนไม่สักลายตามตัวอีกด้วย แต่ในโลกของความเป็นจริงไม่มีใครชนะเรื่องของเวลาที่ล่วงเลยผ่านไปได้ โรนัลโด้ที่ปัจจุบันอายุก็ปาไป 32 ปี(ต้นปีหน้าก็ 33)ย่อมรู้ตัวเองดีว่าพละกำลัง และความคล่องแคล่วของเขาไม่เหมือนแต่ก่อน ถึงแม้จะปรับวิธีการเล่นให้บู๋น้อยลง ไม่ใช่ร่างกายแบบสมบุกสมบันแบบเมื่อก่อน แต่ดูเหมือนความเด็ดขาดอย่าง CR7สมัยก่อนที่ทำได้ เขากลับทำไม่ได้ในบางจังหวะ และดูเหมือนว่าปัญหาตรงนี้คงแก้ไขได้ยากมากขึ้นในทุกๆวัน ดูบอลสด

หลายๆอย่างไม่เป็นใจ

ซีซั่นนี้ โรนัลโด้ ยังไม่ได้สังหารจุดโทษเลย

หากจะบอกว่าโชคชะตาไม่เข้าข้าง ก็พอจะฟังขึ้นอยุ่หน่อยๆ เมื่อมีสถิติที่แปลกสุดๆสำหรับทีมใหญ่อย่าง เรอัล มาดริด เมื่อผ่านไปถึง 12 เกมแล้วในซีซั่นนี้ พกเขายังไม่ได้จุดโทษแม้แต่ลูกเดียว หากจำกันได้ในหลายๆซีซั่น ราชันชุดขาวมักจะเรียกลูกจุดโทษได้อย่างสม่ำเสมอ เพราะสไตล์การเล่นที่กดดันคู่แข่งอยู่ตลอดทั้งเกม บวกกับความแพรวพราวของผู้เล่นในเกมรุก เราจะเห็นการตัดฟาวล์ที่ผู้รับผลประโยชน์เป็นทีมจากเมืองหลวงอยู่บ่อยครั้ง และคนที่เป็นผู้สังหารจุดโทษที่ไว้ใจได้ ก็ต้องเป็น โรนัลโด้ ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ฤดูกาลการก็ไม่มีใครสามารถจะมายึดหน้าที่นี้ได้ แต่ผิดถนัดกับปีนี้ที่เจ้าตัวผลิตสกอร์จากการดวลเดี่ยวกับนายทวารไม่ได้เลย

เว็บที่เกี่ยวข้อง : http://www.linedoball.com/

#คะนึงตึงเปรี๊ยะ

ของดีเมืองปารีส!!รวมแข้งดังที่อาจชิ่งหนี "เปแอสเช" ม.ค.นี้

รวมแข้งดังที่อาจชิ่งหนี "เปแอสเช" ม.ค.นี้

เปแอสเช เป็นทีมฟอร์มแรงสุดๆในซีซั่นนี้ ยิ่งมีนักเตะดาวดังมากมายถึงขั้นล้นทีม จึงจำเป็นให้หลายๆแข้งต้องจำเป็นหาสโมสรแห่งใหม่ มีใครบ้างที่เป็นตัวเต็งจะต้องเก็บกระเป๋าออกไปในเดือน มกรานี้ ไปดูกันเลย!!

เควิน แทรปป์

ผู้รักษาประตู

เริ่มจากนายด่านรูปหล่อชาวเยอรมัน ที่ก่อนหน้านี้ก็เป็นมือ 1 ให้ทีมดังจากเมืองน้ำหอมอยู่ดีๆ ก่อนจะโดน อัลฟงส์ อาเรโอลา ผู้รักษาประตูรุ่นน้อง ที่โชว์ฟอร์มร้อนแรงเบียดแย่งตำแหน่งตัวจริง ทำให้เขาต้องตกเป็นตัวสำรอง และในซีซั่นนี้เจ้าตัวลงเล่นไปแค่ 1 เกมเท่านั้น ถึงอย่างไรในปีหน้า ฟุตบอลโลก 2018 กำลังจะเปิดฉากขึ้น บทบาทของเขากับทีมชาติอินทรีเหล็กก็ถูกยกให้เป็นขุมกำลังหลัก เพราะทาง มานูเอล นอยเออร์ ยังมีอาการบาดเจ็บยาว แต่หากเขายังต้องนั่งก้นด้าน ก็ไม่แน่ว่า โยคิม เลิฟ จะหนีบเขาไปด้วยหรือไม่ ทำให้เจ้าตัวกำลังมองหาสโมสรที่พร้อมจะส่งเขาลงเล่นเป็นตัวจริงโดยมี ดอร์ทมุนด์, โวล์ฟสบวร์ก, ไบเออร์ เลเวอร์คูเซน 3 สโมสรจากลีกบ้านเกิดแสดงความสนใจอยู่ในตอนนี้

ฮาเวียร์ ปาสตอเร่

มิดฟิลด์ตัวกลาง, ปีกซ้าย

สตาร์ชาวอาเจนไตน์รายนี้ เป็นอีกหนึ่งคนที่มีฝีเท้าจัดจ้านในการเล่นเกมรุก แต่ด้วยระยะหลังๆอาการบาดเจ็บที่รบกวน ทำให้เขาได้รับโอกาสในการลงเล่นให้ เปแอสเช น้อยลงเรื่อยๆ ประจวบกับทีมดังจากลีกเอิง ขยันซื้อดาวดังเข้าทีมมากมายอย่าง เนยมาร์ หรือ เอ็มปัปเป้ ทำให้ในซีซั่นนี้แม้เขาจะหายจากอาการบาดเจ็บแล้ว แต่ก็ยังไม่ได้ถูกส่งลงสนามอย่างต่อเนื่อง และตรงนี้เองอาจจะส่งผลต่อรายชื่อนักเตะ อาร์เจนติน่า ที่ต้องสู้ศึกฟุตบอลโลกในปีหน้า ถึงแม้เจ้าตัวจะพึ่งออกมาบอกว่ามีความสุขกับทีม แต่การได้รับความสนใจจาก เชลซี และ ลิเวอร์พูล สองทีมดังจากพรีเมียร์ลีก อาจจะทำให้เจ้าตัวเปลี่ยนใจในเร็วๆนี้ก็เป็นได้

ลูคัส มูรา

มิดฟิลด์ตัวรุก, ปีก

ข่าวการย้ายทีมของตัวรุกชาวบราซิลเลี่ยนรายนี้ร้อนแรงตั้งแต่ช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา แต่สุดท้ายเขาก็ยังอยู่กับเปแอสเชต่อไป ถึงอย่างไรการอยู่กับทีมในตอนนี้ ก็เหมือนกับการเป็นตัวเลือกอันดับ 2 และ 3 ในแนวรุก เพราะรวมทุกรายการเขาลงเล่นทั้งหมด 10 เกม และไม่ได้เป็นตัวจริงเลยแม้แต่เกมเดียว ด้วยวัยกำลังพีค(25 ปี)เขาจำเป็นต้องมีแมตซ์ให้ลงเล่นต่อเนื่อง เพราะมันส่งผลถึงการติดทัพแซมบ้าในปีหน้าอีกด้วย โดยทีมที่เป็นตัวเต็งจะเซ้ง มูล่า ไปร่วมทีม ก็เป็น "สิงห์บลู"เชลซี ที่พร้อมจะนำเงินที่จะขาย วิลเลี่ยน นำมาเป็นค่าสินสอดให้ เปแอสเช ปล่อยตัวแข้งส่วนเกินรายนี้พ้นทีม และดูเหมือนว่าดีลนี้อาจจะเป็นไปได้สูง ในตลาดที่กำลังจะมาถึง

อังเคล ดิ มาเรีย

ปีกซ้าย, มิดฟิลด์ตัวรุก

อีกหนึ่งดาวดังชาวอาร์เจนไตน์ ที่มีข่าวมาตลอดว่าเจ้าตัวต้องการจะย้ายทีม เพราะอนาคตของเขากับ เปแอสเช ดูเหมือนจะไม่ค่อยสวยหรู เมื่อตำแหน่งที่เขาถนัด เนย์มาร์ ซุปตาร์คนใหม่เข้ามาแทนที่ รวมถึงทีมเมืองหลวง ต้องการระบายแข้งดัง เพื่อหาเงินเข้ามาสู่ทีมบ้างหลังจากทุ่มเงินเกือบ 400 ล้านปอนด์ในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา โดย ดิ เมาเรีย ที่พึ่งออกมายอมรับว่าเขาเกือบจะได้ย้ายไป บาร์เซโลน่า แต่ก็เกิดเหตุขัดข้องเสียก่อน โดยประเด็นเรื่องการเป็นอดีตนักเตะ เรอัล มาดริด ไม่ได้ส่งผลต่อการตัดสินใจในครั้งนี้ "ผมไม่ใช่แฟนบอลของ เรอัล มาดริด ผมเป็นแฟนบอลของ โรซาริโอ(ทีมเก่าของเขาจากลีก อาร์เจนติน่า) เพราะฉนั้นผมลงเล่นได้ทุกทีมในโลกนี้ ยกเว้น นีเวลส์ โอลด์ บอยส์" อ่อยซะขนาดนี้ เห็นที บาร์ซ่าอาจจะต้องจัดซะแล้ว ดูบอลสดมือถือฟรี

เอดินสัน คาวานี

กองหน้า

หัวหอกชาวอุรุกวัย ก็เป็นอีกคนที่มีข่าวลือมากมายสำหรับอนาคตของเขากับ เปแอสเช แต่ถึงอย่างไรในตำแหน่งกองหน้าตัวเป้า เขาก็ยังคงได้รับโอกาสลงเล่นเป็นตัวจริงต่อเนื่อง ทั้งในลีก และฟุตบอลถ้วยยุโรป แต่ด้วยข่าวคราวกับการมีปัญหากับเพื่อนร่วมทีมอย่าง เนย์มาร์ รวมถึงการที่ เปแอสเช สนดึงกองหน้าระดับโลก ที่มีความสดมากกว่าตัวเขา ที่อายุก็แตะเลข 3 เข้าไปแล้ว ทำให้ในอนาคตก็ไม่แน่ว่าเขาจะสามารถยึดเป็นตัวหลักกับทีมได้มากน้อยแค่ไหน ในสถานการณ์ตอนนี้ก็มี นาโปลี ที่กำลังจับตามองอดีตแข้งดังคนนี้ หากมีการพูดคุยกัน ก็ไม่แน่ว่าเราอาจจะเห็น คาวานี่ กลับไปสวมเสื้อสีฟ้าในกัลโช่ เซเรีย อา อีกครั้งก็เป็นได้

เว็บที่เกี่ยวข้อง : http://www.linedoball.com/

#คะนึงตึงเปรี๊ยะ

โม้ก่อนเกม!!4 ประเด็นที่ควรรู้ก่อนแมตซ์ ผีแดง ปะทะ บาเซิ่ล

4 ประเด็นที่ควรรู้ก่อนแมตซ์ ผีแดง ปะทะ บาเซิ่ล

เกมชี้ชะตาสำหรับ ผีแดง ว่าจะการันตีผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย ยูฟ่า แชมป์เปี้ยนส์ ลีก คืนนี้หรือไม่ บาเซิ่ล จะเป็นตอบคำถามนี้ มีประเด็นอะไรที่เด็กผีควรรู้ วันนี้เราจะพาทุกคนไปดูกัน!!

โรเตชั่นบางตำแหน่ง

ลินเดอเลิฟ+ลินการ์ด ลง, อิบรา สำรอง

แม้จะมีคะแนนนำห่างอันดับ 2 และ 3 ถึง 6 คะแนน แต่ในทางทฤษฏี ลูกทีมของจ่ามู ก้ยังไม่เข้ารอบ 100 เปอร์เซ็น แต่ถ้าหากเกมนี้ได้แค่ 1 แต้มเป็นอย่างน้อยจะทะยานเข้ารอบเป็นอันดับ 1 ของกลุ่มทันที ทำให้การจัดตัวจะไม่ติดประมาท โดยจะสลับนักเตะในบางตำแหน่งเท่านั้น โดยตำแหน่งแนวรับจะให้โอกาส วิคเตอร์ ลินเดอร์เลิฟ ได้ทำหน้าที่ในรายการนี้ เช่นเดียวกับ มัดติโอ ดาเมี่ยน ส่วนกองกลางจะส่ง เนมันย่า มาติช ลงเล่นต่อเนื่อง โดยมี เฟไลนี่ และ เอเรร่า คอยช่วยสนับสนุนอีกแรง ด้านแนวหน้าจะเป็นหน้าที่ของ โรเมลู ลูกากู กับ มาคัช แลชฟอร์ด ตามเดิม โดยจะมี เจสซี่ ลินการ์ด ทำหน้าที่แทน น้องมาร์ก โดยนักเตะที่พึ่งหายเจ็บอย่าง พอล ป็อกบา และ สลาตัน อิบราฮิมโมวิช จะได้แค่นั่งดูเพื่อนร่วมทีมไปก่อน หลังจากพึ่งลงเล่นให้ทีมในเกมลีกนัดล่าสุดมาหมาดๆ

ผลงานในรายการนี้อย่างเหี้ยม

เด็กผีชนะรวดทุกเกม

เปิดศักราชมาใหม่ หลังจากที่ไม่ได้ลงเล่นในถ้วยยุโรปใบใหญ่ในซีซั่นก่อน เด็กผีกลับมารอบนี้ต้องบอกว่าฟอร์มแรงสุดๆในกลุ่มเอ เพราะพวกเขาลงเล่นไปแล้ว 4 เกมก่อนหน้านี้ สามารถเก็บชัยชนะได้รวด โดยยิงไปถึง 10 ประตู และเสียเพียงแค่ประตูเดียวเท่านั้น โดยในเกมก่อนกับ เอฟซี บาเซิ่ล คือการได้เล่นในบ้านและสามารถเอาชนะแบบไม่ยากเย็นนัก 3-0 มารูยาน เฟลไลนี, โรเมลู ลูกากู และมาร์คัส แรชฟอร์ด ผู้ทำประตูในเกมดังกล่าว ที่ในเกมนี้ทั้ง 3 คนน่าจะได้กลับมาอยู่ในสนามพร้อมหน้าพร้อมตากันอีกครั้ง แถมเกมนี้แม้เจ้าถิ่นจะกลับมาเฝ้ารัง แต่ก็จะขาดนักเตะตัวหลักของทีมอย่าง โตล็องต์ ชาก้า ที่ติดโทษแบน หมดสิทธิ์ลงช่วยทีม 

แข้งเจ็บไม่จำเป็นต้องเร่งส่ง

ป็อกบา + อิบรา อาจจะแค่สำรอง

แม้จะกลับเข้ามาสู่ทีมได้ในเกมที่ ปีศาจแดง ถล่มเอาชนะ นิวคาสเซิล ไปแบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาด 4-1 แต่ในเกมนี้ทั้ง พอล ป็อกบา และ สลาตัน อิบราฮิโมวิช อาจจะได้พัก เนื่องจากสถานการณ์ในกลุ่มตอนนี้พวกเขาค่อนข้างจะสบายกว่าใครเพื่อน ขอแค่ไม่แพ้ก็จะลอยลำเข้ารอบทันที อีกทั้งในวันเสาร์ที่จะถึง ทีมก็จะมีคิวเตะพรีเมียร์ลีกอีกด้วย เชื่อว่า มูรินโญ่ อาจจะไม่เสี่ยงส่งผู้เล่นคนสำคัญ ที่พึ่งหายเดี้ยงกลับมาลงเล่น 3 แมตซ์ ใน 7 วันอย่างแน่นอน ถึงอย่างไรผู้เล่นตัวหลักก็ทำหน้าที่ได้ดีอยู่แล้วในรายการนี้ เพราะฉนั้นโจทย์ของผีแดงที่ต้องการแค่แต้มเดียว ก็ยังดูไม่จำเป็นต้องเข็นนักเตะลงเล่นแบบฟูลออปชั่นก็เพียงพอต่อการผ่านเข้ารอบต่อไปแล้ว ดูบอลสด

สร้างสถิติชนะรวดทุกเกม

ในปีนี้มาดีทุกถ้วย

ปีนี้ดูเหมือนผีแดงจะไม่ได้มาเล่นๆ เพราะไม่ใช่แค่ผลงานดีใน ยูฟ่า แชมป์เปี้ยนส์ ลีก เพียงอย่างเดียว หลังจากชนะรวด 4 เกมติด(ตอนนี้มีอีก 2 ทีมที่ชนะรวด ซิตี้ 5 เกม, ปารีส 4 เกม)แต่ในบอลลีกที่เป็นรองจ่าฝูง คะแนนกำลังไล่ตาม ซิตี้ คู่แข่งร่วมเมือง ในรายการลีกคัพ ที่พวกเขาเป็นแชมป์เก่า ก็มีเส้นทางที่สามารถจะผ่านไปป้องกันแชมป์ได้ หลังในรอบ 8 ทีมจับฉลากเจอทีมต่ำชั้นกว่าอย่าง บริสตอล ซิตี้ โดยในรายการถ้วยหูใหญ่ หากพวกเขาเก็บชัยชนะในค่ำคืนนี้ได้ ก็มีโอกาสสูงทีเดียวที่จะคว้าชัย 6 นัดรวด เพราะในเกมสุดท้าย จะได้กลับมาเล่นในบ้าน เจอกับ ซีเอสเคเอ มอสโค ที่เกมในเลกแรกก็บุกไปอัดถึง รัสเซีย มาแล้วถึง 1-4

เว็บที่เกี่ยวข้อง : http://www.linedoball.com/

#คะนึงตึงเปรี๊ยะ

ผลผลิตราชันสีน้ำเงิน!!4 ยอดแข้ง ที่เกิดจาก"ชาลเก้04"

4 ยอดแข้ง ที่เกิดจาก"ชาลเก้ 04"

อคาเดมี่ที่ประสบความสำเร็จ ในการปั้นนักเตะดาวดังขึ้นมาประดับวงการ อีกทีมหนึ่งต้องยกให้ "ราชันสีน้ำเงิน"ชาลเก้ 04 ทีมดังจากบุนเดสลีกา มีนักเตะคนไหนบ้างที่กำลังก้าวไปเป็นระดับโลก เราจะพาไปดูกัน !!

จูเลียน แดรกซ์เลอร์

2001-2015 (รวมอคาเดมี)

สโมสรปัจจุบัน : ปารีส แซงต์-แชร์กแมง

สุดยอดนักเตะจาก เปแอสเช ผู้มีชื่ออยู่ในชุดคว้าแชมป์โลก 2014 กับทีมชาติเยอรมัน ที่ประเทศบราซิล โดยก่อนจะสร้างชื่อขึ้นมาเป็นสุดยอดนักเตะแห่งเมืองเบียร์ เขาก็ถูกจับตามองตั้งแต่เป็นเยาวชนกับทีม ราชันสีน้ำเงิน ในช่วงปี 2001 ตอนนั้นอายุเข้าแค่ 7 ขวบเท่านั้น โดยในขณะนั้นเขาถูกขนานนามว่าเป็น 1 ใน 10 ขุนพลดาวรุ่งที่ดีที่สุดในลีกยุโรป ก่อนจะใช้เวลา 10 ปี ก้าวขึ้นมาติดทีมชุดใหญ่ และรับใช้ต้นสังกัดนานถึง 4 ฤดูกาล ลงเล่นไปทั้งหมด 119 เกม โดยการบอกลาทีม และไปซบคู่แข่งอย่าง โวล์ฟบวร์ก เป็นเหตุผลที่ชวนอึ้งเหมือนกัน "ผมต้องแบกรับความกดดันต่างๆนาๆ ผมพึ่งหายจากอาการบาดเจ็บยาวถึง 6 เดือน และต้องมาเจอแรงกดดันขนาดนี้ ผมคิดว่าถึงเวลาแล้วที่ต้องย้ายทีม" ถึงอย่างไรปัจจุบันเขาย้ายไปเล่นให้กับ เศรษฐีเมืองน้ำหอม และยังติดทีมชาติอยู่เรื่อยมาจนกระทั่งปัจจุบัน

มานูเอล นอยเออร์

1991-2011 (รวมอคาเดมี)

สโมสรปัจจุบัน : บาเยิร์น มิวนิค

นายทวารเจ้าของส่วนสูง 193 เซนติเมตรรายนี้ เป็นลูกหม้อโดยแท้ของสโมสร ชาลเก้ 04 โดยต้องย้อนไปในปี 1991 ขณะที่เจ้าหนูที่หลงไหลในการเป็นผู้รักษาประตูในวัยเียงแค่ 5 ขวบ เดินเข้ามาคัดตัวกับสโมสรชื่อดังแห่งศึกบุนเดสลีกา เขาไม่ได้มีดีแค่ 2 มือที่เซฟลูกบอลได้ยอดเยี่ยม แต่มีมิติการเล่นฟุตบอลด้วยเท้าที่เยี่ยมยอด การอ่านเกมที่เด็ดขาด จนเมื่ออายุ 18 ปี เขาได้ลงเล่นให้ทีมรองของ ชาลเก้ 04 ก่อนจะก้าวขึ้นมาติดทีมชุดใหญ่ได้ในปี 2006 ก่อนจะพาทีมผ่านไปถึงรอบรองชนะเลิศในศึก แชมป์เปี้ยนส์ ลีก 2010/2011 โดยตัวเขาเองเป็นกัปตันทีมในวัยเพียง 24 ปี และนั้นเป็นเหมือนใบเบิกทาง ก่อนที่จะโดนยักษ์ใหญ่อย่าง บาเยิร์น มิวนิค กระชากตัวไป และยึดเป็นตัวจริงได้ตลอดมา แถมกับทีมชาติเขาก็เป็นตัวเลือกแรกเสมอ และเป็นผู้พา เยอรมัน คว้าแชมป์โลกครั้งล่าสุดได้เช่นเดียวกัน

เมซุต โอซิล

2005-2008 (รวมทีมเยาวชน)

สโมสรปัจจุบัน : อาร์เซนอล

มิดฟิลด์เชื้อสายไก่งวงรายนี้ ถูกยกย่องว่าเป็นจอมทัพเบอต้นๆของโลกในยุคปัจจุบัน ด้วยเท้าซ้ายที่ฉมังเดชของเขา มักอันตรายเสมอหากได้ควบคุมลูกฟุตบอล โดยเขาย้ายมายังศูนย์ฝึกเยาวชนของ ชาลเก้ เมื่อปี 2005 ซึ่งในตอนนั้นเขาอายุ 16 ปีแล้ว และเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง เพราะเขาฝูมฝักประสบการณ์เพียงแค่ปีเดียว พรสวรรค์ในการเล่นฟุตบอล ก็ฉายแววตั้งแต่ตอนนั้นเป็นต้นมา เด็กหนุ่มที่ร่างกายผอมบาง แต่เปี่ยมไปด้วยพิษสงค์รอบด้าน ทั้งเทคนิค การจ่ายบอล และการทำประตู เขานับว่าครบเครื่องสุดๆ ก่อนที่จะได้เซ็นสัญญาเป็นนักเตะอาชีพ ละลงเล่นกับสโมสรแรกนั้นคือ ราชันสีน้ำเงินในเวลาสั้นๆแค่ 2 ฤดูกาล ก่อนจะย้ายไป เบรเมน, เรอัล มาดริด และสโมสรปัจจุบันอย่าง อาร์เซน่อล ทีมดังในเกาะอังกฤษ และในปีข้างหน้าเขายังเป็นตัวหลักในแดนกลางของทัพอินทรีเหล็ก นับเป็นการไปฟุตบอลโลก 3 ครั้งติดของเจ้าตัวอีกด้วย ดูบอลสด

เลรอย ซาเน่

2011-2016 (รวมทีมเยาวชน)

สโมสรปัจจุบัน : แมนเชสเตอร์ ซิตี้

ดาวรุ่งพุ่งแรงในเวลานี้ ต้องมีชื่อของ ซาเน่ ปีกจรวดจากค่าย "เรือใบสีฟ้า"แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ไม่ว่ากับสโมสร หรือทีมชาติเยอรมัน ก็ต้องบอกว่าเขาเป็นอนาคตที่น่าจับตามองสุดๆ แข้งวัย 21 ปี มีวันนี้ได้เพราะ บลูราชัน โดยแท้จริง เขาเป็นนักเตะเยาวชนของทีมตั้งแต่วัยล่ะอ่อน ก่อนจะก้าวขึ้นมาเล่นชุดใหญ่ในวัยเพียงแค่ 18 ปี และเพียงแค่ซีซั่นเดียวเขาสามารถขึ้นมาเป็นผู้เล่นกำลังหลักของทีม และเกมที่แจ้งเกิดคือการเล่นฟุตบอลถ้วยยุโรปเกมแรงของเขาในรอบ 16 ทีมสุดท้าย แชมป์เปี้ยนส์ ลีก กับการเจอโคตรทีมอย่างราชันชุดขาว แม้ในเกมนั้นผลสกอร์รวมจะแพ้ไป 5-4 (พร้อมก้าวขึ้นไปติดทีมชาติทุกชุด) แต่ก็เหมือนเป็นการทำให้หลายคนเริ่มหันมาสนใจแข้งคนนี้ สุดท้ายแล้วสโมสรไม่สามารถรั้งตัวเขาไว้ได้ เนื่องจากเศรษฐีแห่งเกาะอังกฤษอย่าง ซิตี้ คว้าตัวเขาไปปร่วมทีมด้วยค่าตัวถึง 37 ล้านปอนด์ 

เว็บที่เกี่ยวข้อง : http://www.linedoball.com/

#คะนึงตึงเปรี๊ยะ

หงส์มาเพียบ!!5 แข้งผู้เข้าชิง "นักเตะยอดเยี่ยมแอฟริกาแห่งปี"

5 แข้งผู้เข้าชิง "นักเตะยอดเยี่ยมแอฟริกาแห่งปี"

สุดยอดนักเตะในกาฬทวีป เดินทางมาถึง 5 คนสุดท้าย โดยนักเตะ"หงส์แดง"ลิเวอร์พูลติดมา 2 คน(เกอิต้า จะย้ายมาในซัมเมอร์หน้า) เราไปดูกันดีกว่าว่าใครเหมาะสมบ้างสำหรับรางวันนี้!!

นาบี เกอิต้า

(แอร์เบ ไลป์ซิก(ย้ายซบ ลิเวอร์พูล ซัมเมอร์หน้า)/กินี)

แข้งดาวรุ่งชาวกินี เป็นนักเตะที่ฟอร์มฮอตสุดๆในซีซั่นก่อน เพราะเขาเป็นนักเตะตัวหลักที่พาทีม แอร์เบ ไลปืซิก ผงาดคว้ารองแชมป์ลีก หลังจากที่พึ่งเลือนชั้นขึ้นมาได้แค่ปีเดียว แถมยังสร้างประวัติศาสตร์พาสโมสร ไปเล่นในศึก ยูฟ่า แชมป์เปี้ยนส์ ลีก เป็นครั้งแรก นับว่าฝีเท้าของเขาก้าวกระโดดอย่างมาก หลังจากพิสูจตัวเองมาแล้วกับ เอฟซี ซัลบวร์ก และด้วยฟอร์มการเล่นอันร้อนแรงเขาก็เซ็นสัญญาล่วงหน้ากับ ลิเวอร์พูล ทีมดังจากเกาะอังกฤษ โดยจะย้ายมาเป็นนักเตะหงส์แดงในซัมเมอร์หน้า คาดว่าค่าตัวจะเฉียดๆ 50 ล้านปอนด์ ถึงอย่างไรในปีหน้าเขาก็ไม่สามารถพาทีมชาติกินี ผ่านไปเล่นในฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายได้

วิคเตอร์ โมเซส

(เชลซี/ไนจีเรีย)

หากจะพูดถึงความพยายาม แข้งรายนี้มีเต็มสิบ เพราะเขาต้องพิสูจน์ตัวเองกับสโมสรเชลซี ด้วยการออกไปเล่นกับสโมสรอื่น ในสัญญายืมตัว แต่ด้วยความสามารถ และประสบการณ์ที่ได้กลับมา ทำให้เขาเอาชนะใจกุนซือชาวอิตาลี อันโตนิโอ คอนเต้ ถึงกับให้เป็นตัวหลักในซีซั่นก่อน และมีส่วนช่วยให้ทีมดังจากกรุงลอนดอน ผงาดคว้าแชมป์ลีกได้ในทีสุด นับว่าเป็นการแจ้งเกิดอีกครั้ง หลังหลายคนคิดว่า เวลาของเขากับ เชลซี น่าจะหมดลงไปตั้งนานแล้ว จุดเด่นของเขาอีกอย่างหนึ่งคือ การเล่นได้หลายตำแหน่ง ไม่ว่าจะกองกลางตัวรุก, ปีก, แนวรับ(ซีซั่นก่อน) หรือกองหน้า ก็เคยลองเล่นมาแล้ว และด้วยความทุ่มเทเต็มร้อยทำให้เขายึดเป็นผู้เล่นตัวหลักทีมชาติไนจีเรีย ที่ตบเท้าเข้ารอบฟุตบอลโลกกลางปีหน้าที่ รัสเซีย เรียบร้อยแล้ว ดูบอลสดมือถือฟรี

ซาดิโอ มาเน่

(ลิเวอร์พูล/เซเนกัล)

นี่คือสุดยอดดีลของ ลิเวอร์พูล ในซีซํ่นก่อน มาเน่ เป็นผู้ครองสถิติยิงแฮตทริคเร็วที่สุดในพรีเมียร์ลีก หลังใช้เวลาเพียงแค่ 4 นาที 33 วินาที ยิงใส่แอสตัล วิลล่า ในนัดที่ เซาธ์แฮมป์ตัน เอาชนะไปได้ 6-1 และหลังจากนั้น มีข่าวว่าบรรดายักษ์ใหญ่หลายทีมต้องการตัว สุดท้ายก็เสร็จ ลิเวอร์พูล ที่ปาดหน้าคว้าเขาไปครอง และเพียงซีซั่นแรกก็ขึ้นเป็นขวัญใจชาว เดอะ ค็อป แบบเต็มตัว ด้วยสไตล์การเล่นที่รวดเร็ว ดุดัน มันช่างเข้ากับระบบ เฮวี่เมทัล ของกุนซือเมืองเบียร์อย่าง เจอร์เก้น คล็อปป์ แบบสุดๆ จนทำให้เขามีชื่อติดเป็นนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีในทีมพรีเมียร์ลีก รวมถึงผงาดคว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของสโมสรไปครองได้อีกด้วย ส่วนกับทีมชาติก็พึ่งพา เซเนกัล ผ่านไปเล่นฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายได้สำเร็จอีกเช่นเดียวกัน

ปิแอร์-เอเมอริก โอบาเมยอง

(โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์/กาบอง)

โคตรเพชรฆาตแห่งยุค ถ้าไม่มีชื่อเขานับว่าผิด เพราะนี่คือเครื่องจักรถล่มประตูโดยแท้ โอบาเมยอง สร้างชื่อให้ตัวเองมาหลายซีซั่นกับ ดอร์ทมุนด์ โดยความจมูกไวในแดนหน้านับว่าเป็นจุดขายของแข้งกาบองรายนี้ โดยในปีที่ผ่านมาเขามีฟอร์มที่ร้อนแรงเกินใครๆในลีก ด้วยการยิงไป 31 ประตู จากการลงเล่น 32 นัด คว้าดาวซัลโวบุนเดสลีกาไปครอง เหนือ โรเบิร์ต เลวานดอฟกี้ แม้ว่าทีมของเขาจะอยู่ที่ 3 ในตารางก็ตาม ด้วยฟอร์มการเล่นบบพีคสุดๆก็มีข่าวว่าเขาต้องการย้ายไปทีมที่ใหญ่กว่า และมีบรรดายักษ์ทั้งหลายตามจีบอยู่ไม่ขาดสาย แต่ถึงอย่างไร เสือเหลืองก็ประสบความสำเร็จที่เก็บแข้งรายนี้ไว้กับทีมได้ ที่น่าเสียดายคือเราจะไม่เห็นเขายิงประตูสวยๆในบอลโลก 2018 เนื่องจาก กาบอง ทีมชาติของเขาตกรอบคัดเลือกไปตามระเบียบ

โมฮาเหม็ด ซาลาห์

(ลิเวอร์พูล/อียิปต์)

ฉายา คิง ออฟ อียิปต์ ไม่ได้มาจากการจับฉลากแน่นอน เพราะนี่คือแข้งฮีโร่ขวัญใจคนทั้งชาติ จากที่เป็นคนยิงประตูชัยพาทีมไปฟุตบอลโลก หลังรอคอยมานานถึง 28 ปี สร้างความสุขให้คนในชาติแบบไม่มีวันลืม ส่วนในฟุตบอลระดับสโมสร กราฟชีวิตของเขามีแต่พุ่งขึ้นเรื่อยๆ หลังจากอกหักกับ เชลซี เป็นได้แค่ตัวเลือกเบอรองๆ ก็ไปหาความท้าทายใน เซเรีย อา กับ ฟิออเรนติน่า และ โรม่า จนพิสูจน์ตัวเอง สร้างชื่อขึ้นมาอีกครั้ง และด้วยความพยายามทำให้เขากลับมาสู่พรีเมียร์ลีกอีกคำรบ กับสีเสื้อใหม่นั้นคือ ลิเวอร์พุล และเหมือนเลเวลของเขาจะอัพเพิ่มขึ้น ฝีเท้าอันร้อนแรงทำให้กลายเป็น เดอะ แบก ของทีมไปในเวลานี้ เรียกว่าตีบวกสิบ เกือบทั้งตัว

เว็บที่เกี่ยวข้อง : http://www.linedoball.com/

#คะนึงตึงเปรี๊ยะ