5 เกมพลิกนรกในเวทีUCL
BY คะนึง ตึงเปรี๊ยะ
การโคจรมาพบกันระหว่าง 2 ทีมจากอิตาลีในนัดชิงถ้วยใบใหญ่ที่สุดของยุโรป ในครึ่งแรกมุกอย่างเหมือนจะจบตั้งแต่ 45 นาทีแรก เพราะรูปเกมเป็นการบุกของ เอซี มิลานเพียงฝั่งเดียว นอกจากนั้นก็ยิงประตูแบบไม่ไว้หน้าทีมจากอังกฤษไปก่อน 3-0 ไม่มีใครคาดคิดว่า ลิเวอร์พูล จะกลับมาได้ เกมนี้มันจบแล้ว แต่แล้ว 45 นาทีหลัง ปฐิหาริย์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่มีฟุตบอลมาก็เกิดขึ้นที่ อิสตัลบลู เพราะหงส์แดง พลิกนรกกลับมาตีเสมอ 3-3 ต่อเวลา 120 นาทีก็ยังคงสกอร์เดิม ถึงฏีกาดวลจุดโทษปฐิหาริย์ก็ยังอยู่ ลิเวอร์พูล ดวลเป้าแม่นกว่าคว้าแชมป์ไปครองแบบโกงความตายสุดๆ
UCL มีการคัมแบ็คช็อคโลกให้เราได้เห็นกันในแมตซ์ยักษ์ชนยักษ์ บาซ่า กับ เปแอชเช(สกอร์รวม บาซ่าชนะ 6-5) ในวันนี้เราจะพาไปดูซิว่า ก่อนหน้านั้นมีการพลิกนรกช็อกโลกคู่ไหนกันบ้าง หากพร้อมแล้วลุยเลยย! ตารางบอล
เชลซี - นาโปลี (2012/13 รอบ 16 ทีมสุดท้าย)
สกอร์รวม 2 นัด เชลซี 5-4 นาโปลี
การดวลกันระหว่างสโมสรจาก อิตาลี และ อังกฤษ ในนัดแรกที่ สตาดิโอซานเปาโล สนามเหย้าของ "อัซูร่า" นาโปลี เป็นเจ้าบ้านที่อัดทีมเยือนจากลอนดอนไป 3-1 เชลซีกลับไปเล่นในเกมที่ 2 ด้วยสถานการณ์ยากลำบากต้องยิงอย่างน้อย 2 ประตูเพื่อพลิกสถานการณ์ สุดท้ายเชลซีก็ทำได้ 90 นาทีพวกเขาเอาชนะ นาโปลี ไปได้ 3-1 ทำให้ต้องต่อเวลาพิเศษ แล้วในนาทีที่ 105 เป็น ดร็อกบา ที่เปิดบอลเข้ามาในกรอบเขตโทษ และเป็น อิวาโนวิช ตวัดบอลด้วยขวาบอลพุ่งแสกหน้านายทวารนาโปลี และเป็นประตูชัยให้เชลซีพลิกแซงชนะ 4-1
บาร์เซโลน่า - เอซี มิลาน (2012/13 รอบ 16 ทีมสุดท้าย)
สกอร์รวม 2 นัด บาร์เซโลน่า 4-2 เอซี มิลาน
สองทีมยักษ์ใหญ่โคจรมาเจอกันในรอบ 16 ทีม เป็น เอซี มิลาน ได้เปิด ซานซีโร่ต้อนรับการมาเยือนของทีมต่างดาว และดูเหมือนงานจะง่ายกว่าที่คิดไว้เยอะเมื่อพวกเขาอัด บาร์เซโลน่า ไป 2-0 การมาเล่นที่คัมป์ นู จะเป็นอะไรที่ไม่น่าจะยากลำบากมากนัก แต่มันไม่ได้เป็นอย่างงั้น เมื่อเพียงแค่ไม่กี่นาที บาร์ซ่า ทำทุกอย่างให้เท่ากันด้วยการออกนำ 2-0 จาก เมสซี่ และหลังจากนั้นเกมก็ค่อนข้างสูสี แต่จังหวะสุดท้ายเป็นฝั่งเจ้าบ้านที่ทำได้ดีกว่า ซัดไปอีก 2 ประตู ทบต้นทบดอกชนะไป 4-2 พลิกเข้ารอบอย่างสวยงาม
เชลซี - ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ( 2013/14 รอบ 8 ทีมสุดท้าย)
สกอร์รวม 2 นัด เชลซี เสมอ 3-3 แต่ได้ประตูอเวย์โกล ผ่านเข้ารอบได้
มหาเศรษฐีด้านฟุตบอลมาพบกันรอบ 8 ทีมสุดท้าย เกมแรกเป็น เปแอสเช เปิดบ้านไล่ถล่ม เชลซี แบบสบายเท้าไป 3-1 ทำให้กุมความได้เปรียบไว้ได้ ทำให้ในเกมถัดไป สิงห์บลูต้องยิงอย่างน้อยๆ 2 ประตู และด้วยสภาพทีม และฟอร์มการเล่นของ เปแอชเช ในตอนนั้นแกร่งทั่วแผ่นดิน แต่แล้ว เชลซี แสดงให้เห็นหัวใจเพชรอีกครั้ง หลังจากบุกกดดันผู้มาเยือนแบบทุกทิศทุกทาง จนได้ประตูจาก อังเดร ชูเล่ และอีกประตูจาก เดม บาบา เปิดบ้านชนะ 2-0 ผ่านเข้ารอบด้วยกฏประตูทีมเยือน ตารางบอล
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด - บาเยิร์น มิวนิค (1999 นัดชิงชนะเลิศ)
แมนยู เอาชนะไปได้ 2-1 ได้แชมป์ไปครอง
แมตซ์คลาสสิคตลอดการยิ่งแฟน ผีแดง คงจำได้เป็นอย่างดี โดย บาร์เยิร์น มิวนิค ออกนำไปก่อนในช่วงครึ่งแรกของเกม และรูปเกมก็พลัดกันบุก พลัดกันตั้งรับ และดูเหมือนว่าเกมนี้จะจบลงด้วยทีมเยอรมัน จะเป็นแชมป์ด้วยสกอร์ 1-0 แต่จุดเปลี่ยนสำคัญเกิดขึ้นในช่วงท้ายเกมเป็น เท็ดดี้ เชอร์ริ่งแฮม ลั่นประตูตีเสมอให้ ผีแดง เปฌนการปลุกปีศาจที่กำลังจะหมดลมสิ้น ให้ลุกขึ้นมาอีกครั้ง และปฐิหาริย์ก็เป็นจริง เมื่อ เดวิด เบ็คแฮม เปิดลูกเตะมุมเข้าไป เชอร์ริ่งแฮม โหม่งย้อยๆบอลไปถึง โอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ ซัลโวช่วย ผีแดง พลิกนรกแซง เสือใต้คว้าแชมป์ไปได้ในที่สุด
เอซี มิลาน - ลิเวอร์พูล ( 2005 นัดชิงชนะเลิศ)
ลิเวอร์พูล ที่สามารถยิงแม่นกว่า เอาชนะ 3-2 ได้แชมป์ไปครอง
การโคจรมาพบกันระหว่าง 2 ทีมจากอิตาลีในนัดชิงถ้วยใบใหญ่ที่สุดของยุโรป ในครึ่งแรกมุกอย่างเหมือนจะจบตั้งแต่ 45 นาทีแรก เพราะรูปเกมเป็นการบุกของ เอซี มิลานเพียงฝั่งเดียว นอกจากนั้นก็ยิงประตูแบบไม่ไว้หน้าทีมจากอังกฤษไปก่อน 3-0 ไม่มีใครคาดคิดว่า ลิเวอร์พูล จะกลับมาได้ เกมนี้มันจบแล้ว แต่แล้ว 45 นาทีหลัง ปฐิหาริย์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่มีฟุตบอลมาก็เกิดขึ้นที่ อิสตัลบลู เพราะหงส์แดง พลิกนรกกลับมาตีเสมอ 3-3 ต่อเวลา 120 นาทีก็ยังคงสกอร์เดิม ถึงฏีกาดวลจุดโทษปฐิหาริย์ก็ยังอยู่ ลิเวอร์พูล ดวลเป้าแม่นกว่าคว้าแชมป์ไปครองแบบโกงความตายสุดๆ
