หยุดพวกพี่ที!!4 ประเด็นหลังเกม หงส์ดุถึงใจไล่ยิง บอร์นมัธ 3-0

4 ประเด็นหลังเกม หงส์ดุถึงใจไล่ยิง บอร์นมัธ 3-0

สุดติ่งกระดิ่งแมวอีกแล้วสำหรับ พลพรรคหงส์แดง ที่ล่าสุดเปิดรังแอนฟิลด์ ถล่มทีมเยือนอย่าง บอร์นมัธ เละเทะ 3-0 จากการทำประตูของตัวรุกทุกคน มีประเด็นอะไรบ้างหลังเกมนี้ไปดูกันเลย.. !!

จัดหนักต่อเนื่อง

ไม่มีพักตัวหลัก

ถึงว่าทีมพึ่งจะลงเล่นในถ้วย แชมป์เปี้ยนส์ ลีก ไปเมื่อกลางสัปดาห์กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แต่เกมในค่ำคืนที่ผ่านมา ลิเวอร์พูล ไม่ได้พักตัวผู้เล่น หรือโรเตชั่นแต่อย่างใด เนื่องจากสถานการณ์ในลีกยังไม่ชัดเจนในการลุ้นพื้นที่อันดับ 1-4 ทำให้กุนซือชาวเยอรมันจำเป็นต้องส่งตัวหลักลงเต็มจำนวนอัตรา มีแค่ทางกัปตันทีม แฮนเดอร์สัน ที่ติดโทษแบนในรายการก่อน กลับมาสวมปลอกแขนเป็น 11 ตัวจริงแทน ไวจ์นาดุม ที่เหลือก็เป็นแข้งหน้าเดิมทั้งหมด อีกทั้งการเล่นในบ้านที่ในซีซั่นนี้เป็นเพียงแค่ทีมเดียวในลีกที่ยังไม่แพ้ให้ใคร มีสถิติที่สุดยอดในการลงเล่นที่แอนฟิลด์ ทำให้เกมนัดเมื่อคืน กลายเป็นเกมที่ไร้ความกดดัน บวกกับความมั่นใจของทีมในตอนนี้มีอยู่ทุกอณูของสนาม

พับสนามอยู่ข้างเดียว

ค่อยๆยิงทีล่ะเม็ด

เปิดมาแค่ไม่กี่นาที เจ้าบ้านหงส์แดงก็เริ่มเกมบุกอัดใส่คู่แข่งแบบไม่ให้ทันได้ตั้งหลัก และก็มาได้ประตูนำเร็วจาก มาเน่ ที่พึ่งคว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมสัปดาห์ที่ผ่านมาของ แชมป์เปี้ยนส์ ลีก มาหมาดๆ หลังจากนั้นพวกเขาก็ค่อยๆบี้ เพราะทางทีมเยือนไม่สามารถจะสู้ และตอบโต้ได้มากนัก ทั้งโอกาสการครองบอล 60/40 รวมถึงการเจาะเข้าไปทำประตู 27/7 เป็นฝั่งลิเวอร์พูล ที่เล่นบุกยับอยู่ข้างเดียว และมาบวกสกอร์เพิ่มในครึ่งเวลาหลังอีก 2 ประตู จาก 2 ตัวรุกของทีม เท่ากับว่าเกมนี้นักเตะ 3 ผสานในแดนหน้าทำประตูได้ทั้งหมด รวมถึงแนวรับก็เก็บคลีนชีทเป็นเกมที่ 14 ในซีซั่นนี้ เป็นรองแค่ ยูไนเต็ด(15 ครั้ง)อยู่เพียงแค่ทีมเดียว และยังคงรักษาสถิติไม่แพ้ในบ้านต่อไปอีก 1 เกม

ซาลาห์ มาไม่หยุด

ยิงเองนักเลงพอ

หลังจากจบเกมเมื่อคืน มีสถิติส่วนตัวของ โม ซาลาห์ ปีกชาวอียิปต์เพิ่มขึ้นอีกมากมาย ทั้งกลายเป็นผู้เล่น แอฟริกาใต้ ที่ยิงได้มากที่สุด(เดิม ดร็อกบา 29 ประตู) เป็นนักเตะที่ยิงประตู 21 เกมมากกว่าของเดิม โรนัลโด้ (20เกม) นี่ยังไม่สิ้นสุดซีซั่นเขากำลังจะทำลายสถิติเกี่ยวกับการทำประตูเกือบทั้งหมด ยังเหลือเกมให้เล่นอีก 4 เกม และเป็นเกมในแอนฟิลด์ 2 เกม เพราะฉนั้นเขามีโอกาสสุงมากที่จะทำลายไปได้อีกเรื่อยๆ แถมฟอร์มการเล่นส่วนตัวก็ยังถือว่าดีแบบสุดๆ ในช่วงโค้งสุดท้ายนี่เองที่เขาจะเป็นกุญแจสำคัญที่จะกำหนดชะตาของทีมทั้งในเกมลีก และฟุตบอลถ้วยยุโรป รวมถึงการจะกวาดรางวัลส่วนตัว หากมีแชมป์ติดมือในปีนี้

คล็อปป์ ชมเด็กหงส์ไร้ที่ติ

แม้คู่แข่งจะแกร่งพอตัวก็ตาม

บอร์นมัธ พวกเขาไร้แรงกดดันใดๆทั้งสิ้นแล้ว เพราะเล่นให้ครบตามโปรแกรม ไม่มีลุ้นหนีตกชั้นแต่อย่างใด เป็นเพราะฟอร์มการเล่นในช่วงหลังที่แกร่งขึ้นมา ทำให้เกมเมื่อคืนจะไม่ใช่เกมที่ชนะได้ง่ายๆหากไม่วางแทคติกมาดีจริงๆ "พวกเราเล่นกันได้ดี เด็กๆเพรสซิ่งหนักตลอด 90 นาที เรารู้ว่าคู่แข่งไม่ใช้ทีมที่เล่นด้วยง่ายๆ พวกเขามีลูกสวนกลับที่อันตราย และกล้าจะบุกใส่เรา แต่ด้วยความเข้าใจเกม และการเล่นแบบที่มีคาแรคเตอร์ต้องการเป็นผู้ชนะ เราไม่ทำให้งานของพวกเขาง่ายแม้แต่นาทีเดียว แม้ประตูที่ 2 จะมาช้าไปสักหน่อย แต่ตามเป้าน่ะ เราไม่เสียประตู และเรารอแค่จังหวะจบสกอร์ที่ดี เราทำมันได้ในเกมนี้ ตามเป้าหมายที่วางไว้เลย" ไฮไลท์บอล

เว็บที่เกี่ยวข้อง : www.ballstep.com/ไฮไลท์บอล/

#คะนึง ตึงเปรี๊ยะ 

ดาร์บี้นี้สีอะไร!?4 ประเด็นก่อนเกม ท็อฟฟี่ ฟัด หงส์แดง

4 ประเด็นก่อนเกม ท็อฟฟี่ ฟัด หงส์แดง

ดาร์บี้แมตซ์เมืองลิเวอร์พูล เป็นการเล่นกันที่บ้านของ ท็อฟฟี่สีน้ำเงิน โดยทั้งคู่เจอกันมา 2 ครั้งในซีซั่นนี้ เสมอ 1 ลิเวอร์พุล ชนะ 1 ในเกมนี้มีประเด็นอะไรที่ควรรู้เราจะพาไปดูกัน.. !!

ปรับหลายตำแหน่ง

เจ็บ + พักผู้เล่น

แฟนหงส์หลายคนคงจะคิดไปในทางเดียวกันว่า เกมดาร์บี้แมตซ์ในรอบนี้ ต่างจากที่ผ่านๆมาพอสมควร เป็นเพราะจุดโฟกัสกลับกลายเป็นการเจอกับ ซิตี้ ในวันอังคารมากกว่า เพราะในลีกคะแนนระหว่าง ลิเวอร์พุล(อันดับ 3) และ เชลซี(อันดับ 5)ที่แย่งพื้นที่แชมป์เปี้ยนส์ ลีก มีช่องหว่างอยู่ถึง 10 แต้ม แต่ เชลซี แข่งน้อยกว่า 1 เกม เพราะฉนั้นกุนซือชาวเยอรมัน จึงสามารถพักตัวผู้เล่นในบางตำแหน่ง เพื่อเก็บความสดเอาไว้ซัดกับเรือใบสีฟ้า แนวรุกแม้มีข่าวว่า ซาลาห์ พร้อมลงเล่นได้ แต่ก็อาจจะเก็บเอาไว้ไม่ส่งรายชื่อแม้กระทั่งตัวสำรอง โดยกองกลางที่ปัญหา นั่นก็คือ เอ็มเร่ ชาน ที่ยังไม่สามารถกลับมาได้ทั้งในเกมลีก และ ยูซีแอล แผงหลังอาจจะส่งทั้ง โมเรโน่ และ นาเธเนีี่ยล ไคลน์ ลงเล่นหลังฟิตจากการหายเดี้ยงมาสักพักใหญ่ 

นักเตะเดี้ยงเพียบทั้ง 2 ทีม

ไม่ฟูลทีมทั้งคู่

อย่างที่บอกไปตั้งแต่ต้นว่านักเตะที่ไม่พร้อมในเกมนี้ของ ลิเวอร์พุล นั่นมีหลายรายที่เดียว รายที่จะไม่มีส่วนร่วมกับเกมแน่ๆก็มี โจ โกเมซ, รักนา คราวาน, โจเอล มาติป และ อดม ลัลลาน่า ส่วนที่ต้องดูอาการกันอีกทีมีในรายของ โม ซาลาห์ ส่วนทางฝั่งเจ้าบ้าน มีไม่น้อยเช่นเดียวกัน และแต่ล่ะคนก็เป็นนักเตะตัวหลักแทบจะทั้งสิ้น ไล่มาตั้งแต่ เจมส์ แมคคาที่ย์, กิลฟี่ ซีกุดสัน, เมสัน โฮเกต และ มองกาล่า แม้จะมีแข้งดังมากมายที่มีชื่อในเกมนี้ทั้ง เวร์น รูนี่ย์, โบราซี่, วัลคอตต์  ในแผงแนวรุกของ ท็อฟฟี่สีน้ำเงิน แต่อาจจะเป็นดาร์บี้แมตซ์ ที่ไม่ได้ดุเดือดมากซักเท่าไร เพราะทางฝั่งของ เอฟเวอร์ตัน ก็ลอยตัวแล้วเช่นกัน ไม่มีลุ้นทั้งการทำอันดับ รวมถึงหนีตกชั้น 

สถิติ หงส์ ข่มยับ

ช่วงหลังๆ กินนิ่มตลอด

ในปีนี้ชัดเจนว่า ลิเวอร์พูล ทำได้ดีกว่าทีมคู่ปรับร่วมเมืองแบบเห็นได้ชัด ทั้งอันดับในตารางคะแนน บวกกับการลุ้นในถ้วยใบใหญ่อย่าง แชมป์เปี้ยนส์ ลีก โดยทางฝั่งเอฟเวอร์ตันเอง มีการเปลี่ยนตัวกุนซือไปแล้ว 1 ครั้ง แม้จะมีงบประมานการทำทีมที่มากขึ้น แต่ก็ไม่สามารถโชว์ฟอร์มได้ถูกใจแฟนบอลเท่าไร โดยสถิติของฝั่งสีแดงที่มีต่อเจ้าถิ่น นับรวมแล้ว 16 เกมติดต่อกันที่ไม่พ่ายแพ้ให้กับฝั่งสีน้ำเงิน แถมเกมเยือนในปีนี้ลูกทีมของ คล็อปป์ ทำได้ดีแบบสุดๆ ยิง 2 ประตู ขึ้นไป ใน 9 จาก 11 เกมเยือนหลังในลีก จุดเด่นของทีมคือเกมรุกที่ค่อนข้างลงตัว แม้จะขาด ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ แต่ค่าเฉลี่ยการทำประตูของ ลิเวอร์พูล ยังอยู่ในเกณฑ์ที่สูง เป็นรองแค่ ซิตี้ เต็งแชมป์แค่ทีมเดียวเท่านั่นในลีก

คล็อปป์ ไม่เสี่ยงส่งนักเตะเจ็บ / ไม่กักตัวผู้เล่น

แม้มีเกมหนักๆรออยู่ แต่ขอมองไปทีล่ะนัด

ไม่รู้ว่าพูดให้เกียรติทีมคู่แข่งหรือว่าอย่างไร เมื่อการให้สัมภาษณ์ล่าสุด คล็อปป์ ออกตัวว่าเขาพร้อมจะส่งผู้เล่นชุดที่ดีที่สุด แม้จะมีเกมกับ ซิตี้ รออยู่ในอีก 3 วันข้างหน้า "ผมจะประเมินนักเตะ และให้แน่ใจว่าพวกเขาสามารถลงเล่นในค่ำคืนนี้ได้ มันไม่สำคัญว่าจะโรเตชั่นนักเตะหรือไม่ แต่หากทุกคนพร้อม ผมก็พร้อมจะส่งนักเตะตัวหลักลงเล่น เกมนี้มันสำคัญกับเรามาก นอกจากจะเป็น ดาร์บี้ฯ มันยังส่งผลต่ออันดับในตารางคะแนนด้วย" ส่วนอาการบาดเจ็บของ ซาลาห์ ก็ต้องรอกันจนวินาทีสุดท้าย "ผมไม่มีอะไรให้พูดมากนักนะ มันมีสองเหตุผล ผมไม่อยากเผยอะไรมากนักและเราอยากรออีกหน่อย เรามีเวลาอีกไม่กี่ชั่วโมงก่อนเราเดินทางเข้าโรงแรม เรามีเวลาอีกหลายชั่วโมงก่อนผู้ตัดสินเป่าเริ่มเกม" ไฮไลท์บอล

เว็บที่เกี่ยวข้อง : www.ballstep.com/ไฮไลท์บอล/

#คะนึง ตึงเปรี๊ยะ 

ที่นี่ แอนฟิลด์!!4 ประเด็นที่เด็กหงส์ต้องรู้ หลังเกมทุบ เรือใบ 3-0

4 ประเด็นที่เด็กหงส์ต้องรู้ หลังเกมทุบ เรือใบ 3-0

พลิกนรก, เหนือความคาดหมาย หรือ หักปากกาเซียน จะใช้คำไหนก็ได้ แต่มันเกิดขึ้นจริงกับผลสกอร์ที่ หงส์แดง ไล่อัด ซิตี้ แบบเละเทะ เกิดอะไรขึ้นบ้างในเกมนี้ มีอะไรที่ควรรู้หลังเกม ไปดูกันเลย.. !!

เเผนเดิม เพิ่มเติมคือเหนียวแน่น

ไม่ต้องเพลสแหลกเหมือนนัดก่อน

แม้จะวิเคราะห์ไว้ก่อนเกมว่า ยังไงเสีย ซิตี้ ก็ต้องเป็นฝ่ายครองบอลบุก และก็เป็นแบบนั้นจริงๆ แม้จะเป็นเกมเยือน เป็ป ก็ยืนยันคำเดินในการเปิดเกมรุก และเน้นครองบอลในถิ่นแอนฟิลด์ แต่ที่เซอร์ไพรส์คือการเล่นของ ลิเวอร์พูล ในเกมนี้นักเตะไม่ได้เพลสซิ่งแบบในเกมที่ชนะ 4-3 เหตุผลน่ะหรอ นี่คือเกม แชมป์เปี้ยนส์ ลีก กฏประตูทีมเยือนมีความสำคัญ แตกต่างกับ พรีเมียร์ลีก, เอฟเอ คัพ ที่เล่นเป็นเกมๆไป ทำให้ คล็อปป์ กำชับลูกทีมแบบชัดเจนว่า ให้รับผิดชอบในหน้าที่ของตัวเอง สังเกตุได้จากการยืนตำแหน่ง ไม่มีใครทับซ้อน บวกกับดูจังหวะการเล่น และรอโต้กลับสวยๆ ไม่จำเป็นต้องเพลสซิ่งเร็วทุกดอก เพราะหากเป็นเช่นนั่น ความสามารถเฉพาะตัวของซิตี้ จะเลี้ยงกินตัว และบุกไปทำประตูได้ดื้อ(เหมือนกับที่เราเสีย 8 ประตูให้ซิตี้ในลีก)

รอโต้ โชว์ของ

ทั้ง 2 ทีมเล่นตามแผนตัวเอง

จริงอยู่ที่ในเกมนี้ทั้ง 2 ฝ่ายเล่นในแผนที่กุนซือกำชับมา เจ้าบ้านไม่สนใจเรื่องการครองบอลเหมือนนัดอื่นๆ ตั้งหน้าตั้งตาเล่นและคุมโซน ไม่รีบร้อนอะไร ส่วนทีมเยือน เปิดการ์ดครองบอล บุกกดดัน หาช่องทำประตูแบบชัดเจน แต่การตัดสินใจของฝ่ายแรกนั่นชนะตั้งแต่แท็คติกแล้ว ทั้งๆที่รู้ว่าลูกทีมของ คล็อปป์ จะรอสวนกลับจากความผิดพลาด กุนซือชาวกระทิงดุ ก็พร้อมจะยอมเสี่ยง และก็มาซึ่งการเสียประตูแรกจากการสกัดไม่ขาดเล็กๆน้อย, ประตูต่อมาจากการยืนคุมห่างของกองหลัง และก็เป็นเช่นนั้นอีกครั้งในการเสียประตูที่สาม จะเห็นได้ว่า ลิเวอร์พูล ฉกฉวยโอกาสของตัวเองได้ดี ยิงตรงกรอบ 5 ครั้งเป็น 3 ประตู ส่วนเกมรับก็ท็อปฟอร์ม ประจวบเหมาะกับเกมรุก ซิตี้ ที่ตีนบอดยิงไม่ตรงกรอบกันไปเสียหมด ทำให้เกมที่น่าจะสูสี กลับกลายออกมาเป็นสกอร์ที่เกินคาดคิด

เทรนด์ฯ เอ็งมันได้ใจ

โดนจัดหนักในแดงเดือด ก่อนมาเทพในเกมนี้

นักเตะดาวรุ่งคนนี้หากย้อนไปในเกมแดงเดือด เขามีส่วนต้องรับผิดชอบกับ 2 ประตูที่เสียให้กับ ยูไนต็ด และในวันนั้นก็ได้รับคำวิจารณ์อย่าหนัก แต่เขาก็ยังทำหน้าที่ต่อไป พร้อมกับความไว้เนื้อเชื่อในความสามารถจากกุนซือ การก้าวลงมาในสนามวันนี้มีแรงกดดันหลายๆทางทั้งฝั่งแฟนบอลของตัวเอง บวกกับการรับผิดชอบในการประกบ ซาเน่ ปีกที่ขึ้นชื่อว่าจะก้าวขึ้นมาเป็นนักเตะระดับโลกในเวลาอีกไม่นาน แต่แล้วเขาก็เอาชนะใจตัวเอง เอาชนะเสียงวิจารณ์ต่างๆได้อย่างสนิท ด้วยการโชว์ฟอร์มที่เล่นเอาปีกทีมชาติเยอรมัน ถึงกับไปไม่เป็น เราไม่ได้เห็นกันบ่อยๆในซีซั่นนี้ ที่เกมรุกของ ซิตี้ ไม่สามารถส่องลูกบอลตรงกรอบได้แม้แต่หนเดียว นอกจากนั่นนักเตะที่ลงเล่นในวันนี้ต่างทำหน้าที่ได้ดี ตามที่โค้ชสั่ง รางวัลสำหรับเกมเมื่อคืน ก็น่าจะเป็นผลการแข่งขันที่แฮปปี้กันทุกฝ่าย

คล็อปป์ ไม่ประมาทยังเหลืออีกเกม, โม น่าจะเจ็บไม่หนัก

ซิตี้ ยังไงก็ไม่ตายง่ายๆ

ช่วงต้นซีซั่น ลิเวอร์พูล เคยบุกไปแพ้ ซิตี้มาแล้วถึง 5-0 เพราะฉนั้นการประมาทในการเจอกับทีมเต็งแชมป์ลีก เป็นสิ่งที่ผิด และคล็อปป์ มีบทเรียนราคาแพงมาแล้วในเกมลีก "วางใจอะไรไม่ได้ทั้งนั้น ผมไม่ชอบการฉลองระหว่างพักครึ่ง และนี่ก็เป็นเหมือนการพักครึ่ง(ยังเหลืออีก 1 เกม) พวกเขาเคยเอาชนะเรามาแล้วด้วยสกอร์ที่ขาดลอย เพราะฉนั้นผมจะไม่ทำให้มันเกิดขึ้นอีก เราต้องพยายามทำประตูที่นั่นให้ได้(เอติฮัดฯ) ถึงอย่างไรมันจะเป็นเกมที่ยาก อย่างแรกเลยผมต้องกำชับลูกทีมว่าต้องเหลือ 11 คนเท่าเดิมจนจบเกม" ก่อนจะพูดถึงอาการของ ซาลาห์ "เขาดูไม่ค่อยดี เขาบอกผมว่าไม่ค่อยโอเค เราไม่จำเป็นต้องถามแพทย์ ผมตัดสินใจที่พักเขาทันที แต่หลังจากจบเกมเขามีท่าทีที่ดีขึ้น และบอกว่ามันเป็นแค่การเจ็บเล็กน้อย เพราะฉนั้นเราจะรอดูการวินิจฉัยของแพทย์กันอีกที"  ไฮไลท์บอล

เว็บที่เกี่ยวข้อง : www.ballstep.com/ไฮไลท์บอล/

#คะนึง ตึงเปรี๊ยะ 

ภารกิจแตกทัพเรือ!! 4 สิ่งที่หงส์ต้องทำ หากหวังพิชิต แมนฯ ซิตี้

4 สิ่งที่หงส์ต้องทำ หากหวังพิชิต แมนฯ ซิตี้

เกมของ 2 ทีมที่ยิงประตูได้สูงสุดในลีกอังกฤษ แต่เป็นฉบับของฟุตบอลยุโรป กำลังจะเริ่มขึ้นในคืนนี้ ซิตี้ อาจจะดูเป็นต่อกว่าหน่อยๆ แต่วันนี้เราจะพาไปดูกันว่า หงส์แดง ต้องทำยังไง หากหวังจะแตกทัพเรือ.. !!

เพลสซิ่ง วิ่งลุย

สไตล์ถนัด ที่เคยใช้ได้ผล

ก่อนหน้านี้ที่ทั้งคู่จะพบกันในเกมลีกที่แอนฟิลด์ ซิตี้มีสถิติที่ดีมากๆในเกมลีก พวกเขากำลังจะเป็นแชมป์ แบบไร้คู่ต่อกร และกำลังเดินหน้าสร้างสถิติเป็นแชมป์แบบไร้พ่าย ต่อจาก อาร์เซน่อล ที่เป็นทีมเดียวที่เคยทำได้ แต่แล้วความฝันนั่นพังลงจากน้ำมือของทีมเดียวนั่นก็คือ ลิเวอร์พูล และวิธีการเล่นงานทีมแกร่งอย่างเรือใบสีฟ้าคือการวิ่งกดดันไม่ให้ทีมจากเมืองแมนเชสเตอร์ได้หายใจ นี่เป็นสไตล์ที่ลูกทีมของ คล็อปป์ ถนัดสุดๆเมื่อเจอกับทีมที่เเกร่งกว่า พวกเขาไม่มีกลัว เพราะมั่นใจในสปีดบอลที่รวดเร็ว และความขยัน ความคึกของขุนพลหงส์แดงจะทวีคูณเพิ่มมากขึ้น เมื่อลงเล่นในถิ่นแอนฟิลด์ เพราะในเกมลีกพวกเขายังไร้พ่ายในบ้าน เพราะฉนั้นหากเสียงเชียร์ที่กึกก้อง มาพร้อมกับหัวใจที่แน่วแน่ การวิ่งกดดันตลอด 90 นาทีอาจนำมาซึ่งผลลัพธ์ที่ทีมต้องการ

ซิตี้ ขาดตัวยิงหงส์

กุน ไม่พร้อม

แม้ภายในทีมของ แมนฯ ซิตี้ จะพร้อมด้วยผู้เล่นระดับพระกาฬมากมาย แต่มี 1 คนที่เป็นนักเตะที่สร้างปัญหาให้ทีมหงส์แดงได้มากที่สุดในหลายซีซั่นหลัง นั่นก็คือ กุน อเกวโร่ เขาเป็นกองหน้าที่ใช้โอกาสไม่เปลือง และมักทำได้ดีเมื่อต้องเผชิญหน้ากับ ลิเวอร์พุล เจ้าของ 21 ประตูในลีกรั้งอันดับ 3 ในตารางดาวซัลโว เคยซัดใส่ ลิเวอร์พูลมาแล้ว 6 ประตูจาก 15 เกมที่เจอกัน ถึงอย่างไรในเกมนี้จะไม่มีชื่อเขาแน่นอนในเลกแรก เพราะมีปัญหาอาการบาดเจ็บ ทว่าอย่างไรนักเตะอย่าง เฆซุส และตัวรุกดาวดังมากมายไม่ว่าจะเป็น ซาเน่, เดอร์บรอย, กุนโดกัน รวมถึง ซิลบา ก็สามารถยิงประตูได้ทุกเมื่อ แต่การไม่มี อเกวโร่ ก็ช่วยให้กองหลังหงส์แดงสบายใจขึ้นมาได้(นิดนึง) 

3 ประสานต้ององค์ลง

หากเข้าฟอร์ม มันส์แน่

ซิตี้ ขึ้นชื่อว่าเกมรุกดีที่สุดในลีก แต่ใครกันเล่าจะกล้าปฏิเสธว่า ลิเวอร์พูล ที่มี 3 ประสานที่ทุกทีมในยุโรปต้องสะเทือนเมื่อเผชิญ มาเน่ ไม่ต้องบอกสรรพคุณก็รู้ว่าเขาสามารถสร้างปัญหาให้แนวรับของ ซิตี้ ได้แน่นอน แม้ในปีนี้ผลงานอาจจะมีแกว่งๆ แต่นัดไหนที่เครื่องติด ความมั่นใจมาโหดสุดๆ กองหน้า(ไม่ธรรมชาติ)ฟีร์มิโน่ มีมากกว่ากองหน้าที่ควรจะมี เขาสามารถดึงความสนใจจาแนวรับได้ แย่งบอลเก่ง ไม่ได้ยืนเป็นแค่ตัวเป้า แต่สร้างประโยชน์ได้ทั่วทั้งสนาม และปีกที่ยิงเยอะที่สุดในลีกอย่าง ซาล่าห์ มีความอันตรายรอบตัว ความเร็ว ทักษะ และการจบสกอร์ที่ดีกว่ากองหน้าทุกคนในพรีเมียร์ลีก หากปล่อยโอกาสให้เขาเพียงแค่ครั้ง หรือสองครั้ง ซิตี้มีน้ำตาร่วง เพราะฉนั้นจุดเปลี่ยนในเกมนี้อยู่ที่ 3 คนนี้ หากจูนกันติด ทำไมหงส์แดงจะพิชิตเรือใบไม่ได้ล่ะ

คล็อปป์ ตัวกิน เป็ป

สถิติดีกว่า

อาจจะบอกว่า สถิติในอดีตไม่อาจส่งผลถึงเกมในคืนนี้ แต่มันก็มีการบอกถึงความมั่นใจ รวมถึงวิธีการที่ผู้จัดการทีมต้องดวลกัน เกมนอกสนามในการพบกันระหว่าง สองกุนซือระดับโลกทั้ง คล็อปป์ และ เป็ป เป็นตัวแลขที่ฝั่งแรกดูดีกว่านิดหน่อย เพราะพบกันมา 13 ครั้ง คล็อปป์ พิชิตไปได้ 7 ครั้ง และ 5 ครั้งเป็นของกุนซือชาวกระทิงดุ มีเพียงครั้งเดียวเท่านั่นที่ทั้งคู่จับมือกันด้วยผลเสมอ และความมั่นใจจะเหวี่ยงมาที่ฝั่งหงส์แดง เมื่อกุนซือชาวเยอรมัน เป็นคนที่ยัดเยียดความเจ็บปวดให้ เป็ป ได้มากที่สุดกว่ากุนซือคนใดในโลก ถึงอย่างไรเมื่อการเจอกันไม่ว่าเวอร์ชั่นใดของทั้งคู่ จะนำมาซึ่งความเร้าใจในเกมฟุตบอล เพราะนี่คือ 2 แม่ทัพที่ชื่นชอบในวิธีการเล่นเกมบุกแบบสนุก เอนเตอร์เทนแฟนบอล การันตีได้เลยกว่าเกมนี้ยังไงก็มันส์ ไม่ว่าผลจะจบลงด้วยสกอร์ใดก็ตาม  ไฮไลท์บอล

เว็บที่เกี่ยวข้อง : www.ballstep.com/ไฮไลท์บอล/

#คะนึง ตึงเปรี๊ยะ