4 ประเด็นที่เด็กหงส์ควรรู้ในเกมถล่ม สปาร์ตักฯ 7-0
มาตามนัดจริงๆสำหรับ "หงส์แดง"ลิเวอร์พูล ตัวแทนสโมสรสุดท้าย ใน 5 ทีมจากเกาะอังกฤษ หลังในเกมเมื่อคืนถล่ม สปาร์ตักฯ เละเทะ 7-0 มีประเด็นอะไรที่เด็กหงส์ควรรู้บ้าง ไปดูกันเลย !!
แนวรุกตัดเต็ม
4 จตุรเทพพร้อมลุย
ไม่มีปัญหาสำหรับแผงเกมรุกในเกมเมื่อคืน เมื่อทาง เยอร์เก้น คล็อปป์ ไม่มีทางเลือกอื่น หากจะจบเป็นแชมป์กลุ่มต้องมองถึง 3 แต้มเท่านั้น และเมื่อกางรายชื่ออกมา แฟนหงส์ก็เบาใจได้เปราะนึงเมื่อทั้ง ซาดิโอ มาเน่, โรเบิร์ต เฟอร์มิโน่, ฟิลิิปเป้ คูตินโญ่ และ โม ซาลาห์ ล้วนได้ลงพร้อมหน้าพร้อมตากันอีกครั้ง ถึงกระนั้นนักเตะที่มีข่าวว่าไม่ฟิตอย่าง เอ็มเร่ ชาน รวมถึง อัลเบร์โต้ โมเรโน่ กลับมีรายชื่อเป็น 11 ขุนพลตัวจริง เช่นเดียวกับ ลอริส คาริอุส ที่จะได้รับโอกาสในรายการ แชมป์เปี้ยนส์ ลีก ตามคำมั่นสัญญาของนายใหญ่ชาวเยอรมัน ถึงอย่างไร ผลจากเกมที่แล้ว บุกไปเสมอกับ เซบีย่า แบบช็อคแฟนๆทั้งเมือง ก็ทำให้ทีมจำเป็นต้องเรียกพลังศรัทธามาให้จงได้ในเกมนี้
เครื่องร้อนเร็ว
เปิดมาปุ้ปรัวปั้ป
ความกระหายของ หงส์แดง ไม่ต้องรอดูเชิงแต่อย่างใดเปิดเกมมา 4 นาที โม ซาลาห์ มาเรียกจุดโทษ และคนที่ได้รับโอกาสคือกัปตันคูตี้ ที่ต้องสังหารด้วยความกดดัน เนื่องจากช่วงหลังๆเพื่อนๆในทีม ยิงจุดโทษได้...(ละไว้ในฐานที่เข้าใจ) แต่การยิงของเขาเฉียบขาดเหลือเกิน ทำให้ทีมขึ้นนำไปก่อน และเหมือนเป็นการสะกิดแผลแนวรับของทีมเยือนให้ใหญ่ขึ้น เพราะหลังจากนั้นเกมบุกของเจ้าถิ่น ไม่ได้ลดราวาศอกแต่อย่างใด โหมกระหนำเหมือนสกอร์ตามหลังยังไงยังงั้น ก็มากดประตูที่สอง และ สาม ตามาแบบติดๆ จากการประสานงานอย่างเฉียบขาดในแนวรุกของทีมทั้ง 4 จตุรเทพ และเป็นคูตี้ที่บวกไปอีก 1 และแบ่งให้เพื่อนร่วมชาติอย่าง เฟอร์มิโน่ ที่ปิดกล่องในครึ่งแรกด้วยสกอร์ 3-0 แต่ถึงอย่างไรแฟนหงส์บางคนก็ยังไม่มั่นใจ เนื่องจากมีบทเรียนจากเกมก่อนให้เห็นกันมาแล้ว...
นี่สิ RedMachine
เกมรุกเผ็ดร้อนเหลือเกิน
ย้อนไปหลายปีก่อน แฟนหงส์แดงคงได้ยินคำว่า "เครื่องจักรสีแดง" แต่หลังจากหมดยุคนั้นไป ดูเหมือนตอนนี้ เครื่องจักรตัวนั้นเริ่มกลับมาทำงานอีกครั้ง สกอร์ 3-0 เป็นบางทีมคงผ่อนเกม และรักษาสกอร์ไว้ แต่ไม่ใช่กับลูกทีมของ คล็อปป์ เมื่อแต่ละคนที่ลงเล่นในครึ่งหลัง ยังตั้งหน้าตั้งตาเดินเกมกดคู่แข่งไม่ได้หายใจ แม้ทีมจากรัสเซีย จะมีลูกฮึด แต่ก็ไม่เฉียบคม แถมแผงหลังเล่นผิดพลาดกันบ่อย เมื่อโดนบีบกดดันทั้งเกม ทำให้ทีมมารัวเพิ่มเป็น 4 สกอร์ แถม ซาดิโอ มาเน่ ที่ในครึ่งแรกพลาดโอกาสไปหลายครั้ง กลับมาแก้ตัวรัว 2 เม็ด พร้อมกับแฮตทริกของ คูตี้ และดาวซัลโวประจำทีมก็มาตามนัด ปิดกล่องให้ ลิเวอร์พุล ชนะ ไปแบบสบายเท้า 7-0 นับเป็นสกอร์เดียวที่บุกไปยิง มาริบอร์ ใน 2 เกมก่อน ดูบอลสด
บอสบอก "ไผ๋กะดั๊ย!!"
รอบต่อไป เล็กหรือใหญ่ ไม่มีกลัว
หลังจากรอบแบ่งกลุ่มแข่งจบไปเป็นที่เรียบร้อย คิวต่อมาคือรอบ 16 ทีมสุดท้าย(ชาติเดียวกันยังไม่ต้องดวลกันเอง) ที่มีแต่เสือสิงห์กระทิงแรดทั้งนั้น เเต่ถึงอย่างไรกุนซือของหงส์แดง ก็ไม่ได้เกรงกลัวใครเป็นพิเศษ "ผมไม่รู้สึกกังวลกับทีมที่จะต้องเจอในรอบต่อไปน่ะ เพราะเรามาถึงจุดนนี้นับว่าสุดยอด ยิ่งในเกมเมื่อคืนผมไม่มีอะไรต้องบ่นเลยสักนิด เรารอเวลานี้มานาน(การเข้ารอบ แชมป์เปี้ยนส์ ลีก)เพราะฉนั้นเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นกับการได้เจอบิ๊กทีม แน่นอนว่าผมคุ้นเคยกับ เรอัล มาดริด ผมเจอทีมนี้บบ่อยมาก เพราะฉนั้นเราต้องมาดูกันล่ะ ว่าผลจะเป็นยังไง" ***การจับฉลากรอบ 16 ทีมสุดท้าย จะมีขึ้นในวันจันทร์ที่ 11 ธันวาคม 2060 เวลา 18.00 น.***
เว็บที่เกี่ยวข้อง : http://www.linedoball.com/
#คะนึง ตึงเปรี๊ยะ
