4 ข้อผลงานหงส์แดงซีซั่น 2016/17
จบไปแล้วสำหรับพรีเมียร์ลีก 2016/2017 สำหรับพลพรรคลิเวอร์พูลในปีนี้ มีทั้งสุข มีทั้งเศร้า แต่ที่แน่ๆคือได้ลุ้นกันเสียวๆแบบทุกนัด วันนี้เราจะพาไปสรุปผลงานกันซิว่ามีอะไรที่ปังหรือแป้กบ้าง...! ตารางบอล
นี่หงส์แดง หรือ โรบินฮู้ด!
ขโมยแต้มทีมใหญ่ เอาไปให้ทีมเล็ก
นับเป็นตลกร้ายสำหรับทีมงานของ ลิเวอร์พูล เพราะในซีซั่นนี้คะแนนที่พวกเขาทำหล่นหาย ส่วนใหญ่ล้วนแล้วเกิดมาจากเงื่อมมือทีมที่อยู่ครึ่งล่างของตารางคะแนนแทบทั้งสิ้น ในฤดูกาลนี้หงส์แดงแพ้ในลีก 6 นัด และทีมที่พวกเขาแพ้ก็ประกอบไปด้วย เบิร์นลี่ย์ (16), บอร์นมัธ (9), สวอนซี (15), ฮัลล์ (18), เลสเตอร์ (12) และคริสตัล พาเลซ (14) ส่วนการเจอกับทีม ท็อป 7 พวกเขาทำผลงานได้ดีกว่าทุกทีม ชนะ 7 เสมอ 5 นั้นเท่ากับว่าพวกเขาไม่เพลี้ยงพล้ำพ่ายแพ้ให้กับทีมหัวตารางเลยแม้แต่เกมเดียว นับว่าเป็นทีมที่เก่งกับทีมใหญ่ แต่ไปอ่อนกับทีมเล็กจริงๆ
จุดอ่อนเดิมๆ...เกมรับ
สิ่งที่ยังแก้ไม่หายคือแนวรับเสียประตูกันง่าย
ไม่ว่าจะยุคใดสมัยใด สิ่งหนึ่งที่แฟนบอลของหงส์แดง ต้องลุ้นกันเยี่ยวเล็ดก็คือเกมรับของทีมรัก ที่แม้จะซื้อคนนี้ ยืมคนนั้น เปลี่ยนคนโน้น มันก็ยังไม่ลงตัวและเป็นที่ไว้วางใจได้สักที เฉกเช่นเดียวกับฤดูกาลนี้ ทีมมีการขยับในตำแหน่งแนวรับหลายตำแหน่ง มีการปรับ มีการเปลี่ยนในช่วงแรกๆ แต่ฟอร์มในเกมรับโดยรวมยังถือว่าไม่ดีนัก ที่เป็นปัญหาใหญ่ๆเลยคือการรับมือกับลูกตั้งเตะ และประกบตัวผู้เล่น ที่เมื่อต้องเจอกันสถานการณ์แบบนั้น มันเหมือนกับทีมกำลังจะโดนลูกจุดโทษเลยทีเดียว เพราะฉนั้นในซีซั่นหน้า เกมรับยังเป็นปัญหาแรกๆที่ทีมจะต้องรีบจัดการแก้โดยด่วน
อะไรๆก็มาเน่!
ในแนวรุกเมื่อขาด มาเน่ เหมือนขาดใจ
หลังจากการมาของ ซาดิโอ มาเน่ ปีกความเร็วสูงของเซาแฮมป์ตัน เกมรุกของ ลิเวอร์พูล ต้องบอกว่ามาแรงแซงทุกโค้ง เขามีส่วนร่วมกับเกมรุกในช่วงต้นซีซั่น จนช่วง 10 นัดแรกพาลิเวอร์พูลบินสูง ขึ้นไปแตะอันดับ 1 มาแล้ว แต่กระนั้นเมื่อ มาเน่ เกิดอาการบาดเจ็บ เราก็ได้รู้ถึงจุดด้อยของทีมอีกจุดนึง เพราะเกมรุกเริ่มฝืด การเข้าทำของหงส์แดงไม่ได้ดูดีแบบเมื่อมี มาเน่ ทำให้ในซีซ่นหน้าจะพึ่งพาสตาร์คนใดคนหนึ่งในทีมไม่ได้อีกแล้ว ลิเวอร์พูลต้องมีนักเตะระดับเดียวกับ มาเน่, คูตินโญ่ ลัลลาน่า เพิ่มขึ้นมาอีก เพื่อจะยกระดับทีมให้ดีกว่าที่เป็นอยู่
จบอันดับ 4 ถือเป็นเรื่องดีๆในปีนี้
การได้ไปแชมป์เปี้ยนส์ลีก คือการเริ่มต้นที่ดี
การจบอันดับกลางตารางในซีซั่นก่อน ทำให้ทีมไม่ได้ไปเล่นทั้งฟุตบอลถ้วยใหญ่ และ ถ้วยเล็กของยุโรปเลย เมื่อเริ่มต้นฤดูกาลในปีนี้ก็ถูกคาดการจากสื่อหลายสำนักให้เป็นเต็ง 6 บ้าง เต็ง 7 บ้าง ไม่มีใครคาดคิดว่าทีมจะสามารถขึ้นมาเป็นทีมลุ้นในพื้นที่ ยูฟ่า แชมป์เปี้ยนส์ ลีก แต่เริ่มต้นฤดูกาลทีมทำได้ดีเกินคาด แม้ในช่วงกลางๆปลายๆจะทำให้ทีมลุ้นเสียวบ้างว่าจะหลุดจาก ท็อป 4 แต่สุดท้ายก็สามารถเข้าป้ายได้ไปเตะ เพลย์ออฟเพื่อลุ้นว่าจะสามารถเข้าไปในรอบแบ่งกลุ่มได้ไม แต่ถึงอย่างไรแล้ว คล็อปป์ ก็ประกาศตั้งแต่ช่วงแรกของช่วงเปิดซีซั่นว่าเป้าหมายของทีมในปีนี้คือการติด 1 ใน 4 และเขาก็ทำมันได้ตามเป้า
