4 เรื่องที่ต้องรู้หลังเกม "ผีแดง 1-1 เซลต้าฯ"
ผีแดงแรงเข้าชิงยูโรป้า ลีก เป็นเพียงรายการเดียวที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ยังไม่เคยได้แชมป์ หลังเมื่อคืนเจ๊ากับ เซลต้าฯ แต่สกอร์รวมชนะ 2-1 ไปดูกันซิว่ามีเรื่องอะไรที่เด็กผีต้องรู้บ้างหลังเกมนัดนี้...! ตารางบอล
ประตูขึ้นนำ สำคัญที่สุด
พี่ฟู โหม่งตูมเดียวหายช่วยให้ทีมได้ประตูออกนำ
ถึงแม้ว่าในเกมแรก ยูไนเต็ดจะบุกไปเอาชนะ เซลต้า บีโก้ ถึงรังมา 0-1 แต่เกมนี้ยังไงก็ไม่แน่ไม่นอน เพราะหากโดนยิงขึ้นนำ ความกดดันจะกลับมาทางฝั่งเจ้าบ้านทันที แต่ในนาทีที่ 17 ความกดดันก็เหมือนจะถูกยกออกจากอก มาคัส แรชฟอร์ด เปิดบอลถวายพานทองฝั่งเพชร ให้กับ มารูยาน เฟไลนี่ ที่วิ่งบดบี้ตัดแผงกองหลัง กอดจะขวิดเข้าเหลี่ยมมุมที่ดีสุดๆ เป็นประตูออกนำให้ ผีแดง ทำให้สกอร์รวมกลับมาได้เปรียบที่ 2-0 การได้ประตูแรกทำให้ทีมเลือกเล่นได้หลายรูปแบบ แต่ที่ขอตินิดนึงคือรีบตั้งรับเร็วไปหน่อย ควรจะมีลูกหือลูกอือบ้าง
เกมรุกยังขู่คู่แข่งไม่กลัว
แรชฟอร์ด เป็นคนเดียวที่เด่นในเกมรุก นอกนั้นสอบตก
หลายๆเกมที่ผ่านมาเราจะเห็นว่าเกมรุกของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะพึ่งพาเด็กหนุ่มวัย 19 ปี อย่าง มาคัส แรชฟอร์ด มากเหลือเกิน แม้จะเล่นในระบบ 4-3-3 เกมรุก อีกสองคนอย่าง เฮนริค มคิทาร์ยาน กับ เจสซี่ ลินการ์ด ก็ยังแบ่งเบาพาระของ น้องแรชไม่ค่อยจะได้ โดยในแผงมิดฟิลด์ก็มีทั้ง พอล ป็อกบา คอยช่วยสร้างสรรค์เกม และอีกคนที่เป็นตัวทีเด็ด มาลูยาน เฟไลนี่ มีของจากลูกกลางอากาศแถมเป็นผู้ทำประตูในเลกสอง เมื่อมาดูทั้ง 2 เกมในรอบรองชนะเลิศ ผู้ทำประตูมีแค่ น้องแรช กับ พี่ฟู ส่วนตัวรุกคนอื่นๆ ต้องรีบปรับปรุงฟอร์มการเล่นโดยเร็วที่สุด ก่อนนัดชิงฯจะเปิดฉากขึ้น
ตั้งรับมากไปหัวใจจะวายทุกที
เน้นแต่เกมรับมากไปอาจเป็นผลเสียต่อทีม
เมื่อสกอร์นำอยู่ 1-0 และสกอร์รวมก็ฉีกออกไปเป็นสองสกอร์ ทำให้ลูกทีมของ มูรินโญ่ เริ่มลงมาแพ็คเกมรับมากกว่าจะทำประตูที่ 2 ในช่วงนาทีที่ 60 เป็นต้นไปเราก็จะเห็นได้ว่าทีมเริ่มเล่นแบบรัดกุม และส่ง ไมเคิล คาร์ริค ลงมาแทน มาคิทายาน เป็นการบอกโดยนัยแล้วว่าทีมจะไม่บุกเพื่อเอาประตูมากกว่านี้ แต่จะพยายามคงรักษาสกอร์นี้ไว้ แต่ก็นั้นแหละด้วยการตั้งรับมากเกินไปบางทีก็เป็นผลเสียต่อทีม เพราะเมื่อ เซลต้า บีโก้ ได้ประตูแรกโมเมนตั้มก็เหวี่ยงไปทางฝั่งทีมเยือน ถ้าเซลต้าฯ ได้ประตูตีเสมอเร็วกว่านั้นสักหน่อย ไม่อยากจะคิดว่าผลสุดท้ายแล้วจะจบเช่นไร ตารางบอล
จะทำอย่างไร เมื่อไม่มี "ไบยี่"
ช่วงท้ายเกม ไบยี่ โดนใบแดงถูกไล่ออกซะงั้น
สิ่งหนึ่งที่เสียหายแบบสุดๆของเกมนัดเมื่อคืน เป็นอะไรไปไม่ได้นอกซะจากการเสีย เอริค ไบยี่ กองหลังหัวใจหลักในแนวรับของทีม หลังตะบะแตกจนโดนใบแดงโดยตรงตะเพิดออกจากสนาม ทำให้ในเกมหน้าที่จะไปชิงชนะเลิศกับ อาแจกซ์ อัมเตอร์ดัม จะไม่มี ไบยี่ ยืนคุมในแผงหลัง เมื่อเป็นแบบนั้นความหวังทั้งหมดก็ต้องตกไปอยู่กับ คริส สมอล์ลิ่ง อาจจะจับคู่กกับ บลินด์ ในคืนวันพุธที่ 24 พฤษภาคมนี้ หลายคนกังวลว่า สมอลลิ่ง จะมีปัญหารึป่าวหากต้องมายืนเป็น 11 ตัวจริง ขอบอกว่านาทีนี้ไม่มีใครเหมาะสมเท่าเขาแล้ว เพราะด้วยประสบการณ์ และ เป็นเซ็นเตอร์อาชีพ ยังไงก็ต้องพึ่งพี่ไมค์นี่แหละ(หวังว่าจะไม่ทำให้ผิดหวังน่ะ อิอิ)
