4/4/61

ที่นี่ แอนฟิลด์!!4 ประเด็นที่เด็กหงส์ต้องรู้ หลังเกมทุบ เรือใบ 3-0



4 ประเด็นที่เด็กหงส์ต้องรู้ หลังเกมทุบ เรือใบ 3-0

พลิกนรก, เหนือความคาดหมาย หรือ หักปากกาเซียน จะใช้คำไหนก็ได้ แต่มันเกิดขึ้นจริงกับผลสกอร์ที่ หงส์แดง ไล่อัด ซิตี้ แบบเละเทะ เกิดอะไรขึ้นบ้างในเกมนี้ มีอะไรที่ควรรู้หลังเกม ไปดูกันเลย.. !!

เเผนเดิม เพิ่มเติมคือเหนียวแน่น


ไม่ต้องเพลสแหลกเหมือนนัดก่อน


แม้จะวิเคราะห์ไว้ก่อนเกมว่า ยังไงเสีย ซิตี้ ก็ต้องเป็นฝ่ายครองบอลบุก และก็เป็นแบบนั้นจริงๆ แม้จะเป็นเกมเยือน เป็ป ก็ยืนยันคำเดินในการเปิดเกมรุก และเน้นครองบอลในถิ่นแอนฟิลด์ แต่ที่เซอร์ไพรส์คือการเล่นของ ลิเวอร์พูล ในเกมนี้นักเตะไม่ได้เพลสซิ่งแบบในเกมที่ชนะ 4-3 เหตุผลน่ะหรอ นี่คือเกม แชมป์เปี้ยนส์ ลีก กฏประตูทีมเยือนมีความสำคัญ แตกต่างกับ พรีเมียร์ลีก, เอฟเอ คัพ ที่เล่นเป็นเกมๆไป ทำให้ คล็อปป์ กำชับลูกทีมแบบชัดเจนว่า ให้รับผิดชอบในหน้าที่ของตัวเอง สังเกตุได้จากการยืนตำแหน่ง ไม่มีใครทับซ้อน บวกกับดูจังหวะการเล่น และรอโต้กลับสวยๆ ไม่จำเป็นต้องเพลสซิ่งเร็วทุกดอก เพราะหากเป็นเช่นนั่น ความสามารถเฉพาะตัวของซิตี้ จะเลี้ยงกินตัว และบุกไปทำประตูได้ดื้อ(เหมือนกับที่เราเสีย 8 ประตูให้ซิตี้ในลีก)

รอโต้ โชว์ของ

ทั้ง 2 ทีมเล่นตามแผนตัวเอง


จริงอยู่ที่ในเกมนี้ทั้ง 2 ฝ่ายเล่นในแผนที่กุนซือกำชับมา เจ้าบ้านไม่สนใจเรื่องการครองบอลเหมือนนัดอื่นๆ ตั้งหน้าตั้งตาเล่นและคุมโซน ไม่รีบร้อนอะไร ส่วนทีมเยือน เปิดการ์ดครองบอล บุกกดดัน หาช่องทำประตูแบบชัดเจน แต่การตัดสินใจของฝ่ายแรกนั่นชนะตั้งแต่แท็คติกแล้ว ทั้งๆที่รู้ว่าลูกทีมของ คล็อปป์ จะรอสวนกลับจากความผิดพลาด กุนซือชาวกระทิงดุ ก็พร้อมจะยอมเสี่ยง และก็มาซึ่งการเสียประตูแรกจากการสกัดไม่ขาดเล็กๆน้อย, ประตูต่อมาจากการยืนคุมห่างของกองหลัง และก็เป็นเช่นนั้นอีกครั้งในการเสียประตูที่สาม จะเห็นได้ว่า ลิเวอร์พูล ฉกฉวยโอกาสของตัวเองได้ดี ยิงตรงกรอบ 5 ครั้งเป็น 3 ประตู ส่วนเกมรับก็ท็อปฟอร์ม ประจวบเหมาะกับเกมรุก ซิตี้ ที่ตีนบอดยิงไม่ตรงกรอบกันไปเสียหมด ทำให้เกมที่น่าจะสูสี กลับกลายออกมาเป็นสกอร์ที่เกินคาดคิด

เทรนด์ฯ เอ็งมันได้ใจ

โดนจัดหนักในแดงเดือด ก่อนมาเทพในเกมนี้

นักเตะดาวรุ่งคนนี้หากย้อนไปในเกมแดงเดือด เขามีส่วนต้องรับผิดชอบกับ 2 ประตูที่เสียให้กับ ยูไนต็ด และในวันนั้นก็ได้รับคำวิจารณ์อย่าหนัก แต่เขาก็ยังทำหน้าที่ต่อไป พร้อมกับความไว้เนื้อเชื่อในความสามารถจากกุนซือ การก้าวลงมาในสนามวันนี้มีแรงกดดันหลายๆทางทั้งฝั่งแฟนบอลของตัวเอง บวกกับการรับผิดชอบในการประกบ ซาเน่ ปีกที่ขึ้นชื่อว่าจะก้าวขึ้นมาเป็นนักเตะระดับโลกในเวลาอีกไม่นาน แต่แล้วเขาก็เอาชนะใจตัวเอง เอาชนะเสียงวิจารณ์ต่างๆได้อย่างสนิท ด้วยการโชว์ฟอร์มที่เล่นเอาปีกทีมชาติเยอรมัน ถึงกับไปไม่เป็น เราไม่ได้เห็นกันบ่อยๆในซีซั่นนี้ ที่เกมรุกของ ซิตี้ ไม่สามารถส่องลูกบอลตรงกรอบได้แม้แต่หนเดียว นอกจากนั่นนักเตะที่ลงเล่นในวันนี้ต่างทำหน้าที่ได้ดี ตามที่โค้ชสั่ง รางวัลสำหรับเกมเมื่อคืน ก็น่าจะเป็นผลการแข่งขันที่แฮปปี้กันทุกฝ่าย

คล็อปป์ ไม่ประมาทยังเหลืออีกเกม, โม น่าจะเจ็บไม่หนัก


ซิตี้ ยังไงก็ไม่ตายง่ายๆ


ช่วงต้นซีซั่น ลิเวอร์พูล เคยบุกไปแพ้ ซิตี้มาแล้วถึง 5-0 เพราะฉนั้นการประมาทในการเจอกับทีมเต็งแชมป์ลีก เป็นสิ่งที่ผิด และคล็อปป์ มีบทเรียนราคาแพงมาแล้วในเกมลีก "วางใจอะไรไม่ได้ทั้งนั้น ผมไม่ชอบการฉลองระหว่างพักครึ่ง และนี่ก็เป็นเหมือนการพักครึ่ง(ยังเหลืออีก 1 เกม) พวกเขาเคยเอาชนะเรามาแล้วด้วยสกอร์ที่ขาดลอย เพราะฉนั้นผมจะไม่ทำให้มันเกิดขึ้นอีก เราต้องพยายามทำประตูที่นั่นให้ได้(เอติฮัดฯ) ถึงอย่างไรมันจะเป็นเกมที่ยาก อย่างแรกเลยผมต้องกำชับลูกทีมว่าต้องเหลือ 11 คนเท่าเดิมจนจบเกม" ก่อนจะพูดถึงอาการของ ซาลาห์ "เขาดูไม่ค่อยดี เขาบอกผมว่าไม่ค่อยโอเค เราไม่จำเป็นต้องถามแพทย์ ผมตัดสินใจที่พักเขาทันที แต่หลังจากจบเกมเขามีท่าทีที่ดีขึ้น และบอกว่ามันเป็นแค่การเจ็บเล็กน้อย เพราะฉนั้นเราจะรอดูการวินิจฉัยของแพทย์กันอีกที"  ไฮไลท์บอล



เว็บที่เกี่ยวข้อง : www.ballstep.com/ไฮไลท์บอล/
#คะนึง ตึงเปรี๊ยะ