ทำไม'ฟาน ไดจ์' จะประสบความสำเร็จแบบ "ฮูเปีย"
หลังจากย้ายมาเพียงเกมแรก ฟานไดจ์ เจ้าของค่าตัว 75 ล้านปอนด์ ก็ทำประตูแรกให้กับต้นสังกัดใหม่ได้ทันที ทำให้เขาถูกเอาไปเปรียบกับตำนานของทีมอย่าง ฮูเปีย ทั้ง 2 มีอะไรคล้านกันบ้าง เราจะพาไปดู!!
ขึ้นชื่อว่ากองหลังร่างยักษ์
![ดูบอลสดคืนนี้ ดูบอลสดคืนนี้](https://s3.ap-southeast-1.amazonaws.com/images.deccanchronicle.com/dc-Cover-47nc5fo5825sr7n5m3sj73nmr3-20171207205005.Medi.jpeg)
ภูมิหลังเหมือนๆกัน
แม้จะเกิดและเติบโตในประเทศ ฟินแลนด์ แต่อดีตกองหลังฉายา "ภูผาน้ำแข็ง"ก็เคยไปค้าแข่งยังลีกกังหันลมกับ วิลเล่ม ทเว เป็นระยะเวลาถึง 4 ปี โดยเขาลงเล่นให้ทีมมากถึง 100 เกม ยิงไป 3 ประตู เป็นรองแค่ ลิเวอร์พูล ที่เจ้าตัวลงช่วยทีมมากถึง 318 เกม ซัดไป 22 ประตู ถึงอย่างไรเรื่องบังเอิญก็คือ ฟาน ไดจ์ เคยสวมชุดทีมนี้เช่นกันในสมัยยังเป็นดาวรุ่ง เด็กจากเมือง เบดร้า เริ่มต้นเป็นนักเตะอาชีพกับสโมสร วิลเล่ม เทว แต่เพียงแค่ช่วงสั้นๆเท่านั้น ในปี 2009-2010 ก่อนจะไปแจ้งเกิดกับ โกรนิงเก้น และทำให้เป็นที่รู้จักมาจนถึงทุกวันนี้ แม้จะอยู่ห่างกันถึง 10 กว่าปี แต่ทั้ง 2 ก็เคยร่วมเล่นในสนามฟุตบอลเดียวกันมาถึง 2 สโมสร ก็เป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อเหมือนกัน
จุดเด่นคือรูปร่าง
แน่นอนว่า ฮูเปีย คือกองหลังที่ดีที่สุดคนนหนึ่งในยุคพรีเมียร์ลีก ของสโมสรลิเวอร์พูล ด้วยรูปร่างที่สูงใหญ่ ทีมมักจะอุ่นใจเสมอยามที่เขาลงเป็นปราการหลังด่านสุดท้าย โดยเขามีส่วนสูงถึง 193 เซนติดเมตร ซึ่งเป็นเรื่องบังเอิญที่ส่วนสูงของกองหลังคนใหม่วัย 26 ปี เท่ากันพอดิบพอดี แต่เมื่อดูจากสายตาก็จะเห็นได้ว่า ฮูเปีย จะมีรูปร่างที่เพรียวกว่า แต่ลูกหนักแกก็ไม่ได้เป็นสองรองใคร ต่างกับ ฟาน ไดจ์ ที่หนาอย่างเห็นได้ชัด เพราะฉนั้นเกมที่ต้องใช้พละกำลังบดบี้ ความสูงบวกกับร่างกายที่ใหญ่โตมักจะได้เปรียบแนวรุกตัวใหญ่ๆของทีมเยือน ถึงอย่างไรทั้งสองคนก็เป็นกองหลังประเภทใช้รูปร่างของตัวเองได้เป็นประโยชน์ ยิ่งลูกกลางอากาศที่มีจุดเด่นในด้านนี้เหมือนกันทั้งคู่
เบอร์ 4 ที่ดูเหมาะสม
![ดูบอลสดtrue ดูบอลสดtrue](https://m0.sportsjoe.ie/wp-content/uploads/2018/01/01122021/Van-Dijk-jersey.jpg)
ติดธงมาแล้วทั้งคู่
ไม่ต้องแปลกใจในยุคที่ ฟินแลนด์ มีฮูเปียเป็นแนวรับเขาจะติดทัพถึง 105 เกม เพราะชื่อชั้นเหนือกว่าเพื่อนร่วมรุ่นทุกคน โดยการลงเล่นทีมชาติเกมแรกเกิดขึ้นตอนอายุเพียง 19 ปีเท่านั้น ส่วน ฟานไดจ์ ต้องรอถึงอายุ 24 ปี กว่าจะได้ติดทีมชาติ ฮอลแลนด์ ในสมันที่โชว์ฟอร์มเด่นกับ เซาธ์แฮมตัน แต่ถึงอย่างไรอนาคตของเขากับทีมชาติค่อนข้างสวยหรู เมื่อเล่นมาแล้วถึง 19 เกม ยึดเป็นกองหลังหมายเลข 1 ของทีมในขณะนี้ แต่ที่น่าเสียดายคือฟุตบอลโลกปีนี้ จะไม่ได้เห็นเขาที่รัสเซีย เนื่องจากทีมกังหันลม ด่วนตกรอบคัดเลือกโซนยุโรปไปเสียก่อน แต่ด้วยอายุเพียงแค่ 26 ปี อนาคตกับทีมชาติก็ยังอีกยาวไกล หากว่าเขายังคงรักษาผลงานแบบนี้ได้ต่อไป ฟุตบอลโลก 2022 คีย์แมนคนสำคัญของทีมอาจจะเป็นกองหลังคนนี้ก็ได้ ดูบอลสด
![ดูบอลสดมือถือฟรี ดูบอลสดมือถือฟรี](https://d3j2s6hdd6a7rg.cloudfront.net/v2/uploads/media/default/0001/31/thumb_30024_default_news_size_5.jpeg)
อยู่ในช่วงพีคของอาชีพ
การย้ายเข้ามาของ ฟานไดจ์ ในวัย 26 ปี นับว่าเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสม เนื่องจากเขาก้าวผ่านประสบการณ์ต่างๆมาพอสมควร และการเล่นในพรีเมียร์ลีกมาแล้วถึง 80 เกม ทำให้เรื่องการปรับตัวทำได้ง่ายขึ้น ฮีเปีย ก็ย้ายมาสู่ทีม ลิเวอร์พูล ในช่วงอายุเดียวกันกับ ฟาน ไดจ์ และก็แจ้งเกิดกับทีมได้แบบน่าตื่นตาตื่นใจ การเลือกเบอร์ 4 อาจจะเป็นเรื่องบังเอิญ แต่นี่เป็นเหมือนความหวังใหม่ของปัญหาที่แฟนหงส์ต้องอดทนมานานสำหรับแนวรับที่แข็งแกร่ง ฮูเปีย มีภาวะเป็นผู้นำจนได้ปลอกแขนกัปตันทีม ส่วน ฟานไดจ์ ไม่มีใครสงสัยตั้งแต่เกมแรกที่ลงเขาก็กล้าที่จะสั่งเกมจากแนวหลัง และอีกไม่นานเราอาจจะเห็นแข้งเบอร์ 4 รายนี้ได้สวมปลอกแขนอันทรงคุณค่าตามตำนานของทีมที่ครั้งนึงเคยได้รับมัน ส่วนเรื่องประสบความสำเร็จในอนาคตไม่มีใครบอกได้ เพียงแค่เวลาเท่านั้นที่จะเป็นคำตอบ
เว็บที่เกี่ยวข้อง : http://www.linedoball.com/
#คะนึง ตึงเปรี๊ยะ